วันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2557

Travellin' light ไปเวียดนาม - departure

เช้าตรู่วันที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ผมเห็นผู้คนมากมาย เมื่อเดินเข้าสู่อาคารผู้โดยสารสนามบินดอนเมือง... 



หลายคนเกรงว่าเช้า ๆ อย่างนี้อาจไม่มีที่ให้แลกเงิน แต่ผมไม่วิตกเพราะได้ศึกษาข้อมูลไว้ล่วงหน้าแล้ว ยิ่งได้เห็นผู้คนมากมายเช่นนี้ มีหรือที่ธนาคารจะไม่มาเปิดบูธแต่เช้าเพื่อให้บริการ


มีให้เลือกหลายธนาคาร ดูอัตราแลกเปลี่ยนแล้วก็พอ ๆ กัน แลกเงินที่บูธธนาคารกรุงเทพฯ ก็ได้ ผมขอซื้อ $250 ต้องจ่ายด้วยเงินไทย ๘,๒๑๕ บาท...


จากนั้นก็ไปเช็คอิน ผมรู้ว่า Self Check-in Kiosk ของ AirAsia อยู่ที่ไหน...



ได้ boarding pass มาแล้วครับ...


Travellin' light ไม่ต้องโหลดกระเป๋า ผมไม่ต้องไปที่เคาน์เตอร์แอร์เอเซีย เดินตรงไปที่ ตม. ได้เลย!


คราวนี้มี card เปล่าไปด้วย ผมกรอกเสร็จแล้วไปยืนต่อคิวที่ช่อง passport control เห็นเจ้าหน้าที่หญิง ดูท่าทางเหมือนมารับงานใหม่ ใบหน้าเธอฉาบไว้ด้วยความเย็นชา!

ได้รับประทับตราบนหนังสือเดินทางแล้ว ผมเดินไปหยุดที่ทางเข้าจุดตรวจสัมภาระ หยิบขนมปัง (bun) ที่ซื้อจาก 7-11 ออกมากินจนหมดทั้ง ๒ ลูก ก่อนที่จะกินยาความดัน มินิแอสไพริน และวิตามินจากคุณอารีย์  ดื่มน้ำตามจนหมดขวด เก็บเศษขยะทั้งหมดทิ้งถังขยะ แพ็คเป้ให้เรียบร้อยแล้วเดินไปยังจุดตรวจสัมภาระ...


เอาเป้วางลงบนสายพานให้เคลื่อนผ่านเครื่องเอ็กซเรย์ ส่วนกล้องถ่ายรูป มือถือ เข็มขัด กระเป๋าตังค์ ก็ใส่่ลงในตะกร้าต่างหาก  เดินไปผ่านเครื่องตรวจอาวุธซึ่งอยู่ทางด้านขวา แล้วยังต้องไปยืนบนแท่นให้พนักงานสาวเอา detector มาจ่อนั่นจ่อนี่จนเป็นที่หายสงสัย  ถึงจะไปรับของคืนได้...

ผมเดินไปนั่งที่เก้าอี้ซึ่งเคยนั่งตอนบินไปมัณฑะเลย์เมื่อเดือนเมษายน ตรวจดูหนังสือเดินทางอีกครั้ง พบว่าเจ้าหน้าที่ ตม. สาวคนนั้นทำผิด ดันเอา departure card มาเย็บติดกับ passport แทนที่จะเป็น arrival card เพื่อใช้ตอนขาเข้า  ผมแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสัมภาระ ขอกลับไปที่ passport control เธอบอกว่าไปได้ แต่ขากลับต้องตรวจอีกครั้ง...

ผมนำหนังสือเดินทางไปให้เจ้าหน้าที่คนที่ลงตราดู เธอค้นหา arrival card ในตะกร้าแต่ไม่เจอ เจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่งคงเป็นหัวหน้าต้องเข้ามาช่วย เธอแก้ปัญหาด้วยการนำ arrival card ใบใหม่มาเขียนแล้วแก้หมายเลขให้ตรงกับ departure card ก่อนที่จะนำมาเย็บติดให้ในหนังสือเดินทาง  เรียบร้อยแล้วผมเดินกลับไปผ่านจุดตรวจค้นอีกครั้ง  จากนั้นก็หยิบเป้ เดินลงบันไดไปยัง gate 6 ซึ่งเป็นจุดที่ให้ผู้โดยสารนั่งรอ เมื่อเดือนเมษาที่ผ่านมาผมก็ได้มานั่งที่นี่แล้วครั้งนึง ห้องน้ำอยู่ตรงไหนรู้หมด และจำเป็นต้องใช้ด้วยทุกครั้ง!

พอได้เวลาประตูก็เปิด ผู้โดยสาร hot seat (จ่ายตังค์เพิ่ม) ถูกเรียกก่อน จากนั้นก็เป็นผู้โดยสารที่นั่งธรรมดา ผมเดินตามไปขึ้น shuttle bus ที่พาไปส่งถึงบันไดขึ้นเครื่อง...


๐๖.๓๐ น. ได้นั่งประจำที่ 11A   ผมเก็บเป้ไว้ใน cabinet เหนือหัว -  ๐๖.๓๗ น. นกยักษ์ขยับตัวถอยหลัง ในขณะที่พนักงานหนุ่มสาวของแอร์เอเซียสาธิตการใช้อุปกรณ์และการปฏิบัติตนในภาวะฉุกเฉิน - ๐๖.๔๕ น. เครื่องทะยานสู่ท้องฟ้า....





นั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ผมคิดถึงเพลง Wind Beneath My Wings...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น