วันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2557

นครสวรรค์

วันก่อนใน Travellin' light ไปเวียดนาม ผมเขียนถึงจังหวัดนครสวรรค์ บอกว่ารู้สึกอบอุ่นใจทุกครั้งที่ได้ไปเยือน พอดีวันนี้ไปค้นเจอแผ่นพับ "Amazing Nakhon Sawan 1998-1999" ซึ่งจัดทำโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัด เห็นข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวเมืองสี่แควน่าสนใจ จึงขออนุญาตนำมาเก็บไว้ที่นี่... 


"นครสวรรค์" หรืออีกชื่อหนึ่งที่รู้จักกันดีคือ "เมืองปากน้ำโพ" เป็นดินแดนแห่งต้นกำเนิดแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นเมืองที่สี่ฟากฝั่งของสายธารปิง วัง ยม และน่าน มาบรรจบกันจนก่อเกิดเมืองโบราณอันเก่าแก่ และวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า  ด้วยอาณาเขต ๙,๕๙๗ ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยที่ราบลุ่ม ป่าไม้ทึบ ภูเขาสูง และแหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ รวมทั้งโบราณสถานอันบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของเมืองเก่าแก่ "เมืองพระบาง" คือชื่อในอดีตที่สันนิษฐานว่า ปรากฏขึ้นตั้งแต่ครั้งกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี และถือว่าเป็นเมืองหน้าด่านสำคัญ จวบจนปัจจุบันดินแดนแห่งนี้คือ "นครแห่งสวรรค์"  ศูนย์กลางคมนาคมทางบกเพื่อเปิดออกสู่อาณาจักรภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ   สถานที่ที่แนะนำไว้ในแผ่นพับมีดังนี้ ...


วัดวรนาถบรรพต (เขากบ)
เทือกเขาอันศักดฺืสิทธิ์และสวยงามของเมืองปากน้ำโพ อันเป็นที่ตั้งของรอยพระพุทธบาทจำลอง และเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ด้วยความสูงจากระดับน้ำทะเล ๑๘๕.๕๐ เมตร มีบันไดทางขึ้นจำนวน ๔๓๗ ขั้น ที่นี่...คือจุดชมวิวที่สวยงามที่สุดของเมือง สามารถชมความงามได้ครอบคลุมทั้งเมือง รวมไปถึงบึงบอระเพ็ด

ต้นเม่น้ำเจ้าพระยา
จุดเริ่มต้นสายธาร "เจ้าพระยา" อันยิ่งใหญ่ของไทย ที่ธรรมชาติบันดาลให้แม่น้ำสองสีของปิงและน่าน มาบรรจบกันที่ตำบลปากน้ำโพ จนก่อเกิดวัฒนธรรมชาวเรือนแพ และเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวสามารถซึมซับความอิ่มเอมได้

บึงบอระเพ็ด
บึงน้ำจืดธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ แวดล้อมไปด้วยพันธุ์สัตว์หายากนานาชนิด เป็นสวรรค์ของนักดูนกร่วม ๑๖๕ ชนิด พันธุ์ปลาถึง ๑๔๘ ชนิด ความหลากหลายของพืช ๔๔ ชนิด และที่พลาดไม่ได้ ที่นี่ยังเป็นสวรรค์ของบัวบาน ระหว่างเดือนธันวาคม - เมษายน

ศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์
ศาลอันเป็นที่สักการะ และเป็นสถานที่รวมน้ำใจของชาวปากน้ำโพ รวมทั้งผู้สัญจรไปมาที่มักแวะสักการะเพื่อเป็นสิริมงคล ตั้งอยู่บริเวณชุมชนชาวปากน้ำโพ ฝั่งขวาแม่น้ำเจ้าพระยา

สะพานเดชาติวงศ์
สะพานแห่งแรกที่เชื่อมเส้นทางสองฟากฝั่งเจ้าพระยา สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๖ นอกจากจะเป็นสัญลักษณ์แห่งความเชื่อมโยงแล้ว ยังเป็นจุดชมวิวแม่น้ำสองสีที่สวยงามที่สุดอีกจุดหนึ่ง


วัดหนองกลับ
เป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งของจังหวัด เป็นที่เก็บรวมศิลปะพื้นบ้านตั้งแต่ชิ้นเล็กจนถึงชิ้นใหญ่ เช่น ฆ้องโบราณ เครื่องจักสาน เครื่องปั้นดินเผา เครื่องใช้ในครัวเรือน ฯลฯ

เมืองโบราณจันเสน
ซากเมืองโบราณสมัยฟูนัน สุวรรณภูมิ และทราวดี มีพิพิธภัณฑ์ซึ่งรวบรวมไว้ด้วยสิ่งของโบราณที่ประเมินค่าไม่ได้กว่า ๕,๐๐๐ ชิ้น ทั้งเครื่องปั้นดินเผา เครื่องประดับ ตุ๊กตา ฯลฯ

ถ้ำบ่อยา
ภายใต้ความสงัดของธรรมชาติ และความสงบแห่งพระพุทธศาสนา ในถ้ำบ่อยามีลานกว้างสำหรับนั่งสมาธิ ท่ามกลางความงามของหินงอกหินย้อยรอบตัว มีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ "บ่อยาน้ำทิพย์" ที่เชื่อกันว่าสามารถรักษาโรคต่าง ๆ ได้

เขาหน่อ-เขาแก้ว
ด้วยระยะทางเพียง ๔๕ กิโลเมตรจากตัวเมือง เทือกเขาปินปูนอันเป็นสถานที่ตั้งของพระพุทธไสยาสน์ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของเมือง ความงามของเทือกเขาหินปูนนี้ อยู่ที่ความลึกลับของถ้ำหลายถ้ำ ฝูงลิงนับพันตัว และฝูงค้างคาวใหญ่นับล้านตัวที่กางปีกพริ้วร่อนตัวเรียงรายเป็นสายสีดำตัดกับท้องฟ้าในช่วงพลบค่ำ


ทุ่งหินเทิน
รูปร่างแปลกประหลาดของ"ก้อนหิน" ที่เหมือนกับบรรจงบจัดวางให้เรียงราย ลดหลั่น ทับซ้อนกันกลางทุ่งนา สร้างจินตนาการได้ไม่สิ้นสุด

น้ำตกแม่ลีวา
นักท่องเที่ยวผู้รักการผจญภัย ชมชอบป่าเขาและการเดินป่า ปลายทางแห่งความมหัศจรรย์ของที่นี่คือ "น้ำตก" ที่ร่ำลือกันว่าสูงที่สุดในทวีปเอเซียด้วยความสูงถึง ๙ ชั้น

เมื่อ ๑๕ ปีที่แล้ว หนองสมบุญ เป็นแค่สวนสาธารณะกลางเมืองที่ผู้คนไปพักผ่อนหย่อนใจ ในแผ่นพับจึงมิได้กล่าวถึง แต่ปัจจุบันนี้ได้รับการปรับปรุงให้เป็นสวนที่สวยงาม มีเกาะกลางน้ำ สวนหย่อม ไม้ประดับ น้ำพุ สนามหญ้า เวทีกลางแจ้ง และรูปปั้นมังกรขนาดใหญ่ดูงดงาม เรียกกันว่า "อุทยานสวรรค์" 

๑๐ กว่าปีก่อน ผมเคยไปวิ่งออกกำลังกายที่หนองสมบุญ วันนี้ผมขอปักหมุดลงบนแผนที่จังหวัดนครสวรรค์ สัญญาว่าจะกลับไปเยือนอีกครั้ง!!

หมายเหตุ - ภาพทั้งหมดนำมาจากแผ่นพับ Amazing Nakhon Sawan

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น