วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

สุสานช้าง บ้านหนองบัว จ.สุรินทร์


คำว่า "สุสานช้าง" ถ้าเป็นทางเหนือก็จะเรียกว่า "ป่าเห้วจ๊าง" แต่ไม่มีใครสร้างไว้ เมื่อช้างตายคงจะเอางา กระดูก และหนังไปเป็นประโยชน์กันหมด ดังคำที่ว่า "พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี"  แต่ที่จังหวัดสุรินทร์มี "สุสานช้าง (Elephant's Graveyard)" ซึ่งนับเป็นแห่งเดียวในประเทศไทย และแห่งเดียวในโลกก็ว่าได้ 



วันที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๕๙ ผมปั่นจักรยานจาก "บ้านบุญเหลือ" หมู่ ๑๔ บ้านหนองบัว ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นศูนย์ประสานงานกลุ่มโฮมสเตย์ ไปยังวัดป่าอาเจียงซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของสุสานช้าง ตั้งใจมาแต่แรกแล้วว่าจะต้องไปเยือนให้ได้ พอมาถึงวันแรก ยังไม่ทันได้เข้าที่พัก ท่านประธานสภา อบต. ก็ให้จักรยานผมออกปั่นทันที..


ไปอีกไม่ไกล เลี้ยวขวาเข้าไปยังวัดป่าอาเจียง...


พบป้ายบอกทางไปสุสานช้าง...


อยู่นั่นไง...


มีป้ายด้วย อ่านหน่อยนะ...

ประวัติความเป็นมาของสุสานช้าง...สุสานช้าง หมายถึงที่ฝังศพช้างที่เสียชีวิต ให้ได้กลับคืนมาอยู่รวมกัน เป็นสถานที่เก็บรวบรวมโครงกระดูกหรือประวัติของช้างแต่ละเชือกตลอดทั้งข้อมูลของช้าง ประวัติชาติพันธุ์ และสนับสนุนส่งเสริมการท่องเที่ยวรอบรับโครงการนำช้างคืนถิ่น อีกทั้งยังเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้สืบค้นข้อมูลภูมิปัญญาท้องถิ่นคนกับช้างที่มีเพียงหนึ่งเดียวประจำจังหวัดสุรินทร์ และประเทศไทย และแห่งเดียวในโลก โดยส่วนรวมไว้บริการสำหรับผู้สนใจทั่วไปให้สมบูรณ์แบบอยู่ในสถานที่เดียวกันสืบต่อไป
สุสานช้างนี้ตั้งอยู่ในบริเวณที่พักสงฆ์วัดป่าอาเจียง โดยความคิดริเริ่มและนำพาของหลวงพ่อพระครูสมุห์หาญ ปญญาธโร รศ.อัจฉรา ภาณุรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ นายเสนีย์ จิตตเกษม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และนายอนันตพล บุญชู นายอำเภอท่าตูม ในขณะนั้น รองรับญาติธรรมสายบุญสายศรัทธาผู้มาเยี่ยมเยือนสนับสนุนโครงการช้างคืนถิ่นให้ประสบความสำเร็จในอนาคต
เป็นหลุมฝังศพช้างเรียงรายอยู่ในป่าละเมาะของวัดป่าอาเจียง...






ท่านประธานฯ บอกว่าหลุมเก็บโครงกระดูกช้างเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดเมตรครึ่ง ติดกระจกด้านบน สามารถมองเห็นได้ มักจะมีขโมยมาขุด จึงได้ทำที่ครอบเป็นรูปหมวกโบราณปิดเอาไว้อย่างที่เห็น...



วันนี้มีเด็กนักเรียนมาทัศนศึกษา...



ตาแก่เมืองลำปางซึ่งบ้านอยู่ห่างจากศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยแค่ ๑๐ กว่ากิโลเมตรก็มาทัศนศึกษากับเค้าด้วย!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น