วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ถึงสุรินทร์

สถานีรถไฟชุมทางบ้านภาชีมีนาฬิกาดิจิตอลติดตั้งอยู่เหนือชานชาลา...ดูเวลาได้ชัดเจน!


๒๐.๑๕ น. กำลังคิดว่าอีกครึ่งชั่วโมงก็ได้ไปแล้ว ผมได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่รถไฟแจ้งว่า "รถเสียเวลา ๓๐ นาที"  อ้าว...งั้นรถก็เข้า ๓ ทุ่ม ๑๕ ดิ!  ยังก่อน ๆ...ต่อมาประกาศเลื่อนออกไปอีกเป็น ๔ ทุ่ม! แต่ผมไม่อาทร เพราะไปถึงสุรินทร์ไม่ว่าตี ๓... ตี ๕... หรือ ๖ โมงก็คือกัน! นั่งอยู่ที่นี่ไม่มียุงเหมือนที่สถานีรถไฟมัณฑะเลย์...จะไปกลัวอะไร! ผมทดลองนอนตะแคงขดตัวบนม้ายาวดูบ้าง!


๒๒.๐๓ น. หนุ่มรถไฟมาบอกว่ารถกำลังจะเข้า เค้าเอาไฟฉายส่องดูหมายเลขตู้บนตั๋วแล้วพาเดินข้ามทางรถไฟไปส่งให้ยืนรอ ณ จุดที่จะขึ้นตู้ ๖ ได้พอดี ๆ (บริการเช่นนี้ตามสถานีใหญ่ ๆ คงไม่มี) พอรถเข้าเทียบ ผมเดินไม่เกิน ๓ เมตรไปขึ้นบันได แล้วตรงไปยังที่นั่งหมายเลข ๔๘ ซึ่งอยู่ทางด้านซ้าย มีผู้หญิงนั่งอยู่ด้านข้างติดหน้าต่าง ส่วนเบาะตรงข้ามมีหญิงสาวหน้าตาดีคนหนึ่งนั่งอยู่ เธอยิ้มให้!

รถเคลื่อนออกทันทีเมื่อคนขึ้นหมด...


ผมบันทึกไว้ว่า...
นั่งหลับ ๆ ตื่น ๆ - มีคนขายของเดินผ่าน (กาแฟร้อน ๑๐ บาท) - ต้องระวังเพราะที่นั่งแคบ - ถึงสถานีปากช่องเวลาเที่ยงคืน - สาวสวยนั่งตรงข้ามลงไปหญิงนั่งข้างย้ายไปนั่งแทน - นั่งคนเดียวสบายหน่อย หลับดีขึ้น - ถึงสถานีบุรีรัมย์ - เจ้าหน้าที่เดินบอกให้ทราบถึงสถานีที่จะถึง ได้ยินชัดเจน - ถึงสถานีกระสัง ไปห้องน้ำ - take a leak ล้างหน้า และเตรียมตัวลง

พอผ่านกระสังก็เตรียมตัวลง สถานีข้างหน้าไม่ใช่กระสือ...แต่เป็นสุรินทร์  ผมเดินไปรอที่ทางลงขณะรถลดความเร็วเข้าเทียบชานชาลา


ถึงสถานีสุรินทร์แล้วคร้าบบบบ...


มอเตอร์ไซค์รับจ้างเข้ามาถามว่าจะไปไหน ผมบอกว่ายังไม่ไป แล้วเดินหาที่นั่งให้เจ้าแรด...


มอเตอร์ไซค้รับจ้างอีกคนนึงเข้ามาถามอีก พอรู้ว่าจะไปท่าตูมก็บอกว่าต้องไปขึ้นรถที่ขนส่ง ห้องน้ำที่นี่กว่าจะเปิดก็ ๕-๖ โมง...แต่ที่นั่นเปิดตลอด เค้าขอค่าพาส่ง โดยคิด ๒๐ บาท ผมก็ยังไม่ไป  ไม่เห็นจะต้องรีบร้อน...ท้องฟ้ายังมืดอยู่เลย  ผมนั่งจดบันทึก..มองดูรถไฟฟรี (สุรินทร์-กรุงเทพ) เคลื่อนขบวนเข้าเทียบ!


แอบไปดูที่บอร์ด...


เห็นได้ว่าไปหมู่บ้านช้างต้องออกจากตัวเมืองสุรินทร์ไปไกลเหมือนกัน แต่รู้แล้วล่ะว่าต้องนั่งสองแถวไป...


เมื่อได้เวลาห้องน้ำเปิด  ก็ต้องเข้าซะหน่อย!  จ่าย ๓ บาท...


มีห้องอาบน้ำด้วยนะ สถานีรถไฟในเมืองไทย...มันก็ดีตรงนี้แหละ!


ฟ้าเริ่มสาง...ถ้าเป็นพระเณร ก้มลงเห็นเส้นลายมือก็ได้เวลาออกบิณ ผมกินขนมเปี๊ยะอาจารย์บี ๒ ชิ้นกับแล็คตาซอยแล้วเก็บสมุดบันทึก ยกเป้สะพายหลังแล้วเดินออกจากสถานี เห็นภาพผู้โดยสารซึ่งได้อาศัยพื้นที่ด้านหน้าหลับนอนตอนกลางคืน รู้สึกซึ้งน้ำใจของสถานีรถไฟสุรินทร์!


ผมลอดป้ายขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพออกสู่อ้อมกอดของจังหวัดสุรินทร์...


จุดมุ่งหมายข้างหน้าคือ "สถานีขนส่ง"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น