วัดบูรพารามตั้งอยู่เลขที่ ๓๓๐ หมู่ที่ ๑ ถนนจิตรบำรุง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ เป็นวัดเก่าแก่สังกัดธรรมยุติกนิกายแห่งแรกของจังหวัด...
จากสถานีขนส่ง ถ้าเพื่อน ๆ เดินตรงไปตามถนนจิตรบำรุงประมาณ ๖๐๐ เมตร ก็จะเห็นวัดบูรพารามอยู่ทางด้านขวามือ
เดินเข้าประตูวัดก็เห็นป้ายตั้งอยู่...
อ่านหน่อยนะ ผมพิมพ์ให้แล้ว...
วัดบูรพาราม อำเภอเมือง เป็นวัดเก่าแก่ สันนิษฐานว่า สร้างในสมัยกรุงธนบุรีหรือในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ มีอายุประมาณ ๒๐๐ กว่าปี เท่ากับอายุเมืองสุรินทร์ สร้างโดยพระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง (ปุม) ได้รับยกฐานะเป็นพระอารามหลวงเมื่อวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๒๐ สิ่งสำคัญในวัดนี้คือ พระพุทธรูปหลวงพ่อพระชีว์ หรือหลวงพ่อประจี พระพุทธรูปปางมารวิชัยหน้าตักกว้าง ๔ ศอก สันนิษฐานว่าสร้างสมัยเดียวกับการสร้างบูรพาราม นอกจากนี้ยังมีภาพปั้นรูปเหมือนหลวงปู่ดุล อตุโล พระวิปัสสนากรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ที่เคยจำพรรษาอยู่ที่วัดนี้
ยังมีอีกป้ายนึง เอ้า...พิมพ์ให้อีก
วัดบูรพาราม อำเภอเมือง เป็นวัดเก่าแก่ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยกรุงธนบุรีหรือในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ มีอายุประมาณ ๒๐๐ กว่าปี เท่ากับอายุเมืองสุรินทร์ สร้างโดยพระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์ จางวาง (ปุม) เจ้าเมืองสุรินทร์คนแรก สร้างเมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๓๐๐ - ๒๓๓๐ โดยประชาชนร่วมกันสร้างขึ้น เรียกชื่อว่า "วัดบูรพ์" เดิมเป็นวัดมหานิกาย เป็นวัดเก่าแก่มีพัฒนาการที่ยาวนานตามยุคตามสมัย ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๗๖ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (ติสโสอ้วน) ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะมณฑล ได้อนุมัติให้วัดบูรพ์เป็นวัดในสังกัดคณะธรรมยุต และได้นิมนต์พระราชวุฒาจารย์ หลวงปู่ดุล อตุโส ซึ่งปฏิบัติธุดงค์กรรมฐานอยู่ให้มาประจำอยู่ที่วัดบูรพาราม ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสและร่วมเป็นคณะพระสังฆาธิการ
หลวงพ่อพระชีว์ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง ๔ ศอก ประดิษฐาน ณ วัดบูรพาราม ถนนกรุงศรีใน ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ใกล้ศาลากลางจังหวัด หลวงพ่อพระชีว์หรือหลวงพ่อประจีองค์นี้ไม่ปรากฏว่าสร้างขึ้นเมื่อใด คาดว่าสร้างขึ้นพร้อมกับวัดบูรพาราม นับเป็นปูชนียวัตถุที่ชาวสุรินทร์เคารพบูชา ถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดของเมืองสุรินทร์
วัดบูรพารามได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ตั้งแต่วันที่ ๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๒๐
อ่านป้ายได้รู้ข้อมูลวัดแล้วก็เดินไปยังอุโบสถ (1)...
มีภาพจิตรกรรมฝาผนังงดงาม...
หอระฆังสร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๘
เสียดายจัง ผมมีเวลาไม่มาก เพราะต้องรีบกลับสถานีขนส่งเพื่อรอรถสองแถวเที่ยว ๙ โมงไปบ้านตากลาง ยังมีปูชนียสถานและสิ่งก่อสร้างสำคัญอีกหลายแห่งที่ไม่สามารถนำภาพมาให้เพื่อน ๆ ได้ดู
วันนี้มีอุปสมบท ผมได้ผ่านไปเห็นการปลงผม...
"สาธุ ๆๆ" ผมยกมือไหว้อนุโมทนา ก่อนเดินกลับไปสถานีขนส่ง...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น