วันอังคารที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2557

Travellin' light ไปพม่า - แค่เสี้ยวนาทีที่คิดได้

๙ เมษายน ๒๕๕๗  หลังจากท่องพม่ามาได้ ๖ วันเต็ม วันนี้ต้องเดินทางต่อไปยังพุกาม  ผมตื่นแต่เช้า เตรียมตัวเหมือนเช่นทุกครั้ง คือ อาบน้ำสระผม ถ่ายท้อง แต่งตัวด้วยชุดเดินทางซึ่งมีอยู่ชุดเดียวคือ กางเกงยีนส์ขายาว เสื้อจิ้งโจ้ และเสื้อเชิ้ต เก็บของลงเป้แล้วสำรวจให้ถ้วนถี่ว่าไม่มีอะไรหลงลืมไว้ทั้งใต้เตียง ใต้หมอน และในห้องน้ำ

ตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้วที่ Mya Mya บอกว่าจะทำอาหารเช้าแบบพม่าให้กิน  หน้าตาเป็นอย่างนี้ครับ...


เมื่อ ๓๑ ปีก่อน ผมเคยนั่งเรือไปขึ้นที่ Nyaung U   ในสมุดบันทึกได้เขียนไว้ว่า...
วันอาทิตย์ที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๒๖  San Win มาปลุกตั้งแต่ตีสี่กว่า ๆ  ผมร่ำลาคุณ Daw Mya Mya (แม่ของ San Win) แล้วรีบลงเรือซึ่งกำลังจะออกพอดี ในบรรดานักท่องเที่ยวที่มาด้วยกัน มีผมคนเดียวเท่านั้นที่เดินทางต่อไปยังพุกาม ส่วนฝรั่งนักท่องเที่ยว ๕ คนยังคงอยู่ต่อ  บรรยากาศยามเช้าสวยงามมาก...
 ยึดครองห้องเคบินแต่เพียงผู้เดียว…ของีบต่ออีกซัก ๒ ชั่วโมง!  ราว ๗ โมงกว่า ๆ  สาวพม่าคนหนึ่งได้เข้ามาปลุกด้วยเสียงอันดังว่า “Brother, brother!  wake up!  Bagan, Bagan!!”  พอชะโงกหน้าออกไปดูที่หน้าต่าง ภาพพระเจดีย์สีทองส่งประกายสะท้อนกับแสงอาทิตย์ยามเช้าก็ปรากฏต่อสายตา  ช่างงดงามยิ่งนัก!  รู้สึกดีใจมาก ความเหน็ดเหนื่อยมลายสิ้น  อีกไม่นานก็จะได้ก้าวลงสู่อาณาจักรพุกามแล้ว…
ปี ๒๕๕๗  ครั้งนี้ไม่ได้นั่งเรือ แต่จะต้องขึ้นรถโดยสารไป Nyaung U  จีจีบอกว่าถ้าไปขึ้นรถที่สถานีขนส่งเค้าจะคิด ๓,๐๐๐ จ๊าด เธอจะพาไปขึ้นรถอีกที่หนึ่ง ค่าโดยสารแค่ ๑,๐๐๐


ได้เวลาออกเดินทาง  จีจีพาผมออกจาก Mya Yatanar Inn ซ้อนมอเตอร์ไซค์ไปที่ท่ารถ...


ร่ำลากันแล้ว Gyi Gyi ก็จากไป  เธอย้ำว่าได้ขอให้คนที่นั่งอยู่ช่วยบอกผม หากว่ารถมาถึง


ผมนั่งเหยียดหลังบนเก้าอี้ รอไปเรื่อย ๆ  เมื่อมีภาพน่าสนใจอยู่เบื้องหน้าก็ยกกล้องขึ้นบันทึกไว้...




บอกแล้วไงว่าในพม่าไปที่ไหนก็มีแต่วัดและเจดีย์  ที่นี่มีเจดีย์ให้เห็นเช่นกัน...


มีรถโดยสารคันนึงวิ่งมาจอด ชายคนที่ Gyi Gyi สั่งไว้ก็ไปแล้ว ผมต้องเดินไปถามที่บูธว่าใช่รถไป Nyaung U หรือเปล่า?  เค้าบอกไม่ใช่  ผมกลับมานั่งรอต่อนานนับชั่วโมงจนมีรถอีกคันนึงเข้ามาจอด...


ผมถ่ายรูปเพลิน...





หารู้ไม่ว่ารถคันนั้นคือรถไป Nyaung U เวลาผ่านไปอีกกว่าครึ่งชั่วโมง ได้ยินรถบีบแตรเสียงดัง...ถึงฉุกคิดได้ว่ามันน่าจะเป็นรถที่จะต้องขึ้น  ผมรีบคว้าเป้ ข้ามถนนไปถาม ใช่จริงด้วย!  ผมรีบก้าวขึ้นทางประตูหน้า โห!  บนรถมีผู้โดยสารเต็มไปหมด ไม่มีที่นั่งเหลืออยู่เลย  พอดีเห็นเบาะแถวหลังยังว่างอยู่  ผมรีบลงจากรถแล้วเดินอ้อมไปขึ้นทางประตูพิเศษด้านหลัง ต้องโหนตัวขึ้นไป พอหย่อนก้นลงบนเบาะ รถก็เคลื่อนตัวออก!  โอ...นี่ถ้ายังคงนั่งเพลินอยู่ จะต้องรออีกนานแค่ไหนไม่รู้ ถึงจะมีรถเที่ยวต่อไป?   แค่เสี้ยวนาทีเดียวที่คิดได้ ทำให้ผมไม่ตกรถคันนี้!

รถวิ่งไปขึ้นสะพานที่ยาวที่สุดในประเทศพม่า ข้ามแม่น้ำอิรวดี มุ่งหน้าสู่ Nyaung U...


กระเป๋าพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ขึ้นมาเก็บค่าโดยสาร ผมส่งแบงค์พันให้ ๑ ใบ บอกว่า "Nyaung U"  เค้ารับไปโดยไม่พูดอะไร   รถวิ่งไปเรื่อย ๆ  ผมนั่งมองข้างทาง พยายามสังเกตป้ายบอกทาง ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะถึงเมืองที่ต้องลง กระเป๋าหรือผู้โดยสารที่อยู่บนรถก็ดูเหมือนว่าไม่มีใครซักคนที่จะช่วยบอกให้รู้ได้...


นี่คือความเร้าใจของการเดินทางสไตล์ลุงน้ำชา!!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น