วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2557

Travellin' light ไปพม่า - นั่งรถยนต์กลับมัณฑะเลย์

๑๑ เมษายน ๒๕๕๗  ถึงวันเดินทางกลับไปมัณฑะเลย์ ผมเตรียมตัวตั้งแต่เช้า พอ ๗ โมงก็ออกไปกินอาหารเช้าที่ห้องอาหาร - ๘ โมงนำกุญแจไปคืนที่เค้าน์เตอร์ - พร้อมแล้วสำหรับการเดินทางไปมัณฑะเลย์ หนุ่มพม่าที่อยู่หน้าโรงแรมบอกผมว่ารถคันที่ผมจะนั่งไปมัณฑะเลย์ไม่ใช่รถอย่างดีสำหรับนักท่องเที่ยว แต่เป็นรถ(ช้า)ซึ่งจอดรับส่งผู้โดยสารไปตลอดทาง  ผมก็ได้แต่อือออไปตามเรื่อง เห็นฝรั่งคู่หนึ่งกำลังยืนรอรถที่ฝั่งตรงข้าม...


นั่นไง...รถมาจอดรับแล้ว เป็นรถหรูจริง ๆ ด้วย!!


ต้องนั่งรออีกกว่าครึ่งชั่วโมง พอใกล้เวลาผมก็ข้ามถนนไปยืนรออยู่ที่หน้าร้านขายของชำ ไม่นานนักรถโดยสารคันหนึ่งก็มาจอดรับ ไม่ใช่รถแบบที่มารับฝรั่ง แต่เป็นรถแบบเดียวกับรถ ป.2 บ้านเรา ที่แปลกตาก็คือการจราจรต้องขับชิดขวา (เหมือนประเทศลาว) แต่กลับใช้รถพวงมาลัยขวา ผมต้องเดินไปขึ้นรถที่กลางถนน แทนที่จะขึ้นจากริมทาง...


บนรถมีแต่คนหัวดำ...


คงจะช้าจริง ๆ ด้วยแหละ แต่ผมก็ชอบ เพราะทำให้ได้เห็นภาพชีวิตชาวพม่าได้ใกล้ชิดกว่าการเดินทางด้วยรถโดยสารซึ่งวิ่งเร็ว รวดเดียวถึงปลายทาง เห็นว่ากว่าจะถึงมัณฑะเลย์ก็บ่าย ๓ หรือบ่าย ๔  รถไฟที่ผมจะขึ้นออกตอนหัวค่ำ มีเวลาเหลือเฟือ จะช้าก็ไม่เห็นเป็นไร


บางแห่งจอดนานเพื่อรอผู้โดยสาร ทำให้ผมได้เห็นชีวิตจริงของชาวพม่าซึ่งมิใช่ภาพลวงตาที่เอาไว้อวดนักท่องเที่ยวแต่อย่างเดียว...




ภาพผู้โดยสารลงฉี่ข้างทางอย่างเนี้ย... ถ้านั่งรถทัวร์มาก็คงไม่ได้เห็น!


ลักษณะถนนหนทางเป็นเช่นนี้...


วิ่งไปได้เกือบ ๒ ชั่วโมง รถก็ไปจอดที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง...



ปล่อยให้ผู้โดยสารได้รับประทานอาหารกลางวัน...



ผู้โดยสารส่วนหนึ่งนั่งรออยู่ใต้ต้นไม้...ไม่ได้เข้าไปนั่งกินอะไร



ห้องน้ำอยู่ด้านหลัง...


ท่านชายเชิญทางนี้ครับ...


หลังจากนั้นเราก็เดินทางต่อ  รถวิ่งไปอีกนาน พอเห็นร้านรวงต่าง ๆ หนาตา ผมก็เดาได้ว่าเมือง Meiktila คงจะกำลังรออยู่ข้างหน้า!



วิกิพีเดียกล่าวว่า...
เมะทีลา เป็นเมืองทางตอนกลางของประเทศพม่า อยู่ในเขตมัณฑะเลย์ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเมะทีลา เป็นสถานที่ตั้งของกองทัพอากาศพม่า มีมหาวิทยาลัยวิศวกรรมอากาศยาน อยู่ห่างจากเมืองมัณฑะเลย์ไปทางทิศใต้ 121 กิโลเมตร เป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนา

นั่นไง...ทะเลสาบเมะทีลา


ป้ายข้างทางบอกผมว่าคิดถูกแล้ว ถ้าผมวางแผนที่จะขึ้นรถไฟที่สถานี Thazi ไป Kalaw ผมก็จะต้องลงค้างที่นี่ ๑ คืน...



ทีแรกก็ตั้งใจว่าจะมาเมะทีลาเพื่อตามหาคนที่เคยรู้จัก...


เมื่อเวลาผ่านมาถึง ๓๑ ปี... ป้า Tin Tin ก็คงไม่อยู่รอผมหรอก จะไปถามหาที่ไหนก็คงไม่เจอ ผมจึงขออาศัยการนั่งรถผ่านเมืองเมะทีลาในวันนี้เป็นการทำให้ฝันเป็นจริงก็พอแล้ว!

รถวิ่งถึงมัณฑะเลย์ประมาณบ่ายสามโมงครึ่ง...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น