วันพุธที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

Don't be defeated!

ก็อย่างที่ผมบอก แทนที่จะใช้เส้นทางที่ใกล้กว่าและไม่ต้องขึ้นเขา ผมดันหันหัวมาทางนี้ จะต้องปั่นอีกไม่น้อยกว่า ๔๐ กิโลเมตร!...


ความเห็นของตาแก่จากเมืองรถม้า... ผมคิดว่าการจอดรถถามชาวบ้านถึงเส้นทางที่จะไป บางครั้งก็ไม่ดีส่วนใหญ่มักพบกับผู้ที่ไม่ใช่นักเดินทาง บางคนเห็นว่าสิ่งที่ผมทำเป็นเรื่องผิดปกติ พูดว่า "จะปั่นรถถีบไปเด่นใจ๋กา? ไก๋นา !" แล้วก็บอกเส้นทางที่พอรู้ ซึ่งไกลกว่าและไม่เหมาะสำหรับการปั่นจักรยาน จากบ้านปินผมถูกชี้ทางให้ปั่นเข้าไปตามถนนที่ต้องอ้อมแล้วก็ไปทะลุออกถนนใหญ่ !


มีที่พักอยู่ข้างหน้า สอบถามดูแล้วพบว่ามีห้องพักปรับอากาศราคาคืนละ ๓๕๐ บาท บ้านทั้งหลัง ๕๐๐ บาท ผมถามว่า "ปั่นจักรยานาคนเดียวอย่างนี้ ลดได้บ้างมั้ย"  คำตอบคือไม่ได้!  ไม่เป็นไรครับ! ผมยังไม่พักหรอก ต้องลุยให้ถึงเด่นชัยก่อนค่ำอยู่แล้ว


ปั่นมาตามเส้นทางที่จัดว่าค่อนข้างโหดสำหรับผม (คงง่ายสำหรับเสือภูเขาอย่างคุณแอ้ม) เย็นลงทุกที ๆ แสงแดดจัดจ้าเริ่มลดแรง ผมขี่จักรยานลงเนินมาพบกับ "วัดดอยแก้ว" ซึ่งอยู่ทางซ้ายมือ...


ใจนึงก็อยากขึ้นไปดู แต่คิดว่าคงไม่ทัน ผมทำได้แค่เพียงถ่ายภาพซุ้มประตูเก็บไว้...


มองไปยังด้านหลังที่ปั่นผ่านมา...


รู้สึกว่าพลังจวนหมด ทันทีที่เห็นร้านขายน้ำแข็งไส หรือถ้าเป็นสมัยปั่นจักรยานไปสิงคโปร์เมื่อ ๓๐ ปีก่อนคือร้านขาย ABC (Air Batu Campur)  ผมหักรถเข้าแวะเติมพลังทันที


จำไม่ได้แล้วว่าสั่งอะไร รู้แต่ว่าอยากได้เครื่องดื่มเย็น ๆ และหวาน ๆ เพื่อจะได้มีกำลังปั่นต่อไป...




เครื่องดื่มช่างหอมหวานและเย็นชื่นใจยิ่งนัก เหมือนได้ขึ้นสวรรค์...ความรู้สึกเช่นนี้ไม่เคยลืม ทุกครั้งที่ปั่นจักรยานมาไกลด้วยความเหน็ดเหนื่อยและกระหายหิว ขณะนั้นบ่าย ๓ โมงครึ่งแล้ว แม่ค้าสาวบอกว่ายังอีกไกลกว่าจะถึงเด่นชัย ผมแย้งว่ายังมีเวลาอีกตั้งหลายชั่วโมง เธอพูดว่าต้องปั่นข้ามภูเขา (รู้สึกว่าชื่อดอยสะแล่ง ? - ไม่แน่ใจว่าใช่หรือเปล่าเพราะได้ยินไม่ชัด) ผมจะไปเสียเวลาตรงนั้น ตาแก่จากเมืองรถม้าก็ยังเชื่อมั่นในตัวเองเกินไปอยู่ดี (ที่จริงโง่มากกว่า)

ผมมองหนทางเบื้องหน้า รู้ว่ามีภูเขารออยู่ข้างหน้า แต่ก็ย้อนกลับไปเปลี่ยนเส้นทางไม่ได้แล้ว!!


แล้วก็เจอเข้ากับของจริง หนทางสูงชันขึ้นเรื่อย ๆ บางจุดผมต้องลงเดินจูงจักรยาน...


ต้องปั่นขึ้นเนินเป็นระยะ ๆ และแทบทุกยอดก็จะต้องลงจูง มีรถวิ่งผ่านมาบ่อย ๆ หลายคันคงอยากจะจอดรับตาแก่ที่กำลังเดินขาปัดจูงจักรยานขึ้นดอยโดยมีเป้สะพายอยู่บนหลัง สภาพของผมไม่ต่างจากวันที่ปั่นจักรยานจากไชยบุรีไปเมืองหงสา วันนั้นผมยอมแพ้เพราะขาดน้ำและเสบียง แต่วันนี้ยังดีที่มีน้ำอยู่ในขวดและมีส้มโอที่นำมาด้วยจากบ้าน ผมต้องหยุดยืนดื่มน้ำและกินส้มโอเพื่อเติมพลัง มีอยู่ ๒-๓ ครั้งที่ผมคิดจะพับรถแล้วโบกขออาศัยรถปิกอัพที่วิ่งผ่านมา แต่ไม่รู้ว่าทำไมจึงยังคงอดทนเดินทางต่อมาได้เรื่อย ๆ เห็นโค้งข้างหน้าก็ได้แต่คิดว่าต่อไปคงลงเขาแล้วล่ะ


แต่ก็ยังคงต้องขึ้นเขาอีก ผมปั่นต่อไปด้วยความอดทน ขึ้นไม่ไหวก็เดินจูงเจ้า Banian ค่อย ๆ ก้าวไปข้างหน้า ในที่สุดก็ถึงตรงนี้ จุดที่มีป้ายบอกว่าต่อไปจะเป็นทางลงเขา...


นึกถึง The Old Man and the Sea ของ Ernest Hemingway ที่ว่า "A Man Can Be Destroyed but Not Defeated"  ผมดีใจมาก ๆ


แสงเหลือไม่มากแล้ว แต่เส้นทางยังอีกยาวไกล


ระหว่างลงเขาก็ต้องระวังเป็นพิเศษ อันตรายมาก ๆ ผมต้องเบรค (พร้อมกันทั้งหน้าหลัง) ให้ความเร็วลดลงบ้าง ช่วงหลายกิโลเมตรที่จักรยานวิ่งลงไปเหมือนติดจรวด ชีวิตผมฝากไว้กับนรกหรือสวรรค์ไปครึ่งนึงแล้ว!


ในที่สุดก็ถึงทางเรียบ ถนนหลวงที่จะพาผมไปยังสถานีรถไฟเด่นชัย...


หลอดไฟที่ปลายเสาติดสว่างแล้ว ผมยังอยู่ไกลจากเมืองเด่นชัย....


ความสว่างลดลง ตาแก่เริ่มมองไม่ชัด!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น