วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

FB Trip ไปลาว - The unforgettable ride


ขี่จักรยานจากไซยะบูลีมาตามทางหลวง 4A  แรก ๆ ความสูงชันก็ยังอยู่ในระดับทั่วไป ผมปั่นไปได้สบาย ๆ ด้วยพลังซาลาเปาทอด ๒ ลูกกับแลคตาซอย ๑ กล่อง...


หลังจากนั้นไม่นานหนทางก็เริ่มโหด ในขณะปั่นข้ามภูไปยังหมู่บ้านข้างหน้า!



ก่อนถึงบ้านห้วยจ้วง ตอนนั้นผมเหลือเสบียงแค่แลคตาซอย ๑ กล่อง (ในภาพกล่องนึงเป็นกล่องเปล่า)  และซาลาเปาอีก ๑ ลูก...


ต้องจูงจักรยานขึ้นเนินบ้างแล้ว แต่ระยะทางยังไม่ไกลนัก ช่วงวิ่งลงเขาน่ากลัวไม่น้อย ผมต้องระวังสุด ๆ...


หมอกควันอันเกิดจากการเผาป่าทำให้ความสดชื่นมลายไปจากตัวผม...




ถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ผมแวะเข้าไปเยี่ยมชมวัด...


แล้วกลับออกมาเติมพลังที่ร้านน้ำแข็งไสริมทาง เสบียงที่นำติดตัวไปด้วยนั้นหมดแล้ว ที่เห็นแขวนอยู่กับแฮนด์นั่นเป็นแค่ถุงขยะ...




แต่ก็ยังคงมีแรงปั่นต่อ...




หนทางเริ่มโหดขึ้นเรื่อย ๆ




อีก ๔๐ กิโลเมตรถึงหงสา ผมสอบถามชาวบ้านแล้วทราบว่าเส้นทางข้างหน้าเป็นภู...ขึ้น ๆ ลง ๆ ไปตลอด!


ถึงตอนนั้น...น้ำในกระติกเหลืออยู่นิดเดียว!


ใกล้ถึงยอดภูที่เขียนวงกลมไว้นั่นแหละ คือหลักกิโลสุดท้ายที่ปั่นไปถึง มองไปข้างหน้า...ผมบอกไม่ได้ว่าถนนจะไต่ระดับขึ้นไปอีกแค่ไหน?  จริง ๆ แล้วก็ใช่จะใกล้ค่ำ ผมยังมีเวลาอีกไม่น้อยกว่า ๓-๔ ชั่วโมงที่จะเดินทางให้ถึงเมืองหงสา หนุ่มลาวที่กระต๊อบริมทางบอกว่าข้างหน้ามีหมู่บ้านขนาดใหญ่ แต่จะต้องข้ามภูลูกที่เห็นข้างหน้าไปก่อน...


ลองแล้วครับ ผมพยายามเดินจูงจักรยานขึ้นไป แต่ขาหมดกำลัง ไปได้แค่ไม่กี่ก้าวก็ต้องหยุดพัก! ผมตัดสินใจที่จะโบกรถ  ถนนด้านขวาติดเหวมีแดด ผมจูงจักรยานข้ามถนนไปด้านซ้ายที่มีเงาไม้  ขณะนั่งรอพยายามหายใจลึก ๆ เพื่อให้ปอดได้รับออกซิเจนมากขึ้น  ยกกระติกน้ำขึ้นดื่ม...ปรากฏว่ามีแต่ลม!

มีรถผ่านมา... คันแรกเป็นรถปิคอัพ คันต่อมาเป็นรถบรรทุกขนาดกลาง แต่ผมก็ยังนั่งเฉย ปล่อยให้ผ่านไปทั้งสองคัน

คันที่สามเป็นรถปิคอัพซึ่งไต่ขึ้นมาแล้วไปหยุดอยู่ข้างหน้า ห่างจากผมประมาณ ๑๐ เมตร ผมรีบลุกขึ้นคว้าจักรยานวิ่งไปหาทันที เว้าลาวขออาศัยรถไปลงที่หงสา บอกด้วยว่าไม่สบาย...ปั่นต่อไม่ไหวแล้ว คนขับใจดีอนุญาตผมให้นำจักรยานขึ้นไว้ในกระบะหลัง...


ตัวผมขึ้นนั่งพิงกระจกมองดูเส้นทางที่รถกำลังไต่ขึ้นไปอีกเรื่อย ๆ (เสียดายที่ไม่ได้บันทึกภาพมาให้เพื่อน ๆ ดู)  มาตั้งสติกดชัตเตอร์ได้อีกทีก็เมื่อผ่านภูเขาสูงลูกนั้นมาแล้ว....


เพื่อน ๆ คงจะบอกได้ว่าผมดีใจขนาดไหนเมื่อรู้ความจริงว่ารถที่นั่งมาด้วยนั้นเป็นรถคนไทยป้ายทะเบียนเชียงใหม่  ต้องขอบพระคุณ อ.จัตุรัสและเพื่อนทนายอีกครั้งที่ได้ช่วยให้ผมผ่านวิกฤตในวันนั้นมาได้!


มีโอกาสไปลำพูน... ผมจะปั่นจักรยานไปเยี่ยมคารวะเด้อ!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น