วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ทริปล้างพิษ – บทสรุป

เมื่อวานนี้ผมแจงว่าทริปล้างพิษที่ผ่านมา จัดได้ว่าเป็นทริปที่ดีที่สุดเท่าที่เคยทำมา (The best trip I've ever had!) ผมมีความรู้สึกเช่นนั้นจริง ๆ! แม้ทริปที่ไปพม่า ๓ ครั้งจะน่าประทับใจแค่ไหน ก็ยังไม่เท่ากับทริปล้างพิษครั้งนี้! 



ก่อนเล่าให้ฟังอย่างละเอียด ผมคงต้องสรุปค่าใช้จ่ายให้เพื่อน ๆ ทราบเสียก่อนว่าทริปครั้งนี้ผมใช้เงินไปทั้งสิ้น ๔,๑๓๑ บาท เป็นค่าเดินทาง, ค่าอาหาร-เครื่องดืม, ค่าที่พัก, ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์, ค่าเช่าจักรยาน, ค่าเข้าห้องน้ำ รวมทั้งค่าเข้ารับการอบรมหลักสูตรล้างพิษตับ ๔ วัน ๓ คืนจำนวน ๒,๕๐๐ บาท  คิดโดยเฉลี่ยแล้วตกประมาณวันละ ๕๐๐ บาท มันทำให้ผมมีสุขภาพดีขึ้นทั้งกายใจ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับโครงการฟื้นฟูและส่งเสริมสุขภาพองค์รวม 8 อ. ได้ฟังคำบรรยายเกี่ยวกับสุขภาพจากวิทยากรผู้ผ่านประสบการณ์ในการเอาชนะโรคร้าย รวมทั้งได้ล้างพิษออกจากร่างกาย ส่วนการท่องเที่ยวเมืองกาญจน์ซึ่งจัดว่าเป็นโบนัสพิเศษ ก็ยิ่งคุ้มค่ากับงบประมาณพันกว่าบาท

ผมพักที่คะนาอันเกสต์เฮ้าส์ ๓ คืน นอนในห้องเตียงเดี่ยวซึ่งมี wifi ให้ใช้ถึงบนที่นอน (แต่ไม่ค่อยได้เล่น เพราะหลับซะก่อน ฮา)  


ได้เที่ยวทุกที่ ๆ น่าสนใจ...




ได้ปั่นจักรยานประมาณ ๓๐ กว่ากิโลเมตรจากตัวเมืองไปโรงเรียนผู้นำเพื่อเข้ารับการอบรมหลักสูตรล้างพิษฯ


เข้าพักในบ้านอัญชัน ๑๑ ซึ่งให้ความสะดวกสบายทุกอย่าง...


ทุกครั้งที่ไปเที่ยว ไม่ว่าที่ไหนก็ได้แค่ประสบการณ์ ได้เห็นเพียงสรรพสิ่งที่อยู่นอกกาย แต่ทริปนี้ผมได้ประโยชน์ในเรื่องสุขภาพ ลึกเข้าไปถึงอวัยวะภายใน!!


ทุก ๆ เช้าผมได้แช่เท้าพอกหน้าด้วยสมุนไพรเพื่อขยายหลอดเลือดและดูดพิษออกจากร่างกาย (เรื่องการอบรมหลักสูตรล้างพิษฯ ครั้งนี้ ผมจะเขียนเล่าอย่างละเอียดในบล็อกช่างเหอะนะครับ)... 


ต้องขอขอบคุณเจ้าของคะนาอันเกสต์เฮ้าส์ที่กรุณาคิดค่าเช่าจักรยานรวม ๖ วันของผมในราคาพิเศษ  ด้วยจักรยานพับยี่ห้อ doppelganger สีเหลือง ผมได้ปั่นเที่ยว...






ที่ไหนที่ผู้คนนิยมขับรถไปเที่ยว... เจ้าเสือเหลืองก็พาผมไปถึงได้เช่นกัน


ส่วนเรื่องอาหารการกิน ต้องยอมรับว่าตลอด ๘ วัน ๘ คืน ผมได้รับแต่อาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ในช่วงอดอาหารก็สามารถอยู่ได้อย่างสบาย ๆ


ในวันสุดท้ายผมได้ปั่นจักรยานตั้งแต่เช้ายันเย็น... เที่ยวอำเภอท่าม่วง!


ความภาคภูมิใจอยู่ที่วัดบ้านถ้ำ เมื่อผมขึ้นบันได ๗๐๗ ขั้น ไปจนถึงพระธาตุซึ่งอยู่บนยอดเขา...


เป็นการเอาชนะใจตนเองมิให้ยอมแพ้  ทำให้ประสบความสำเร็จได้ในที่สุด...


สำหรับการเดินทางทั้งหมด ผมไม่ได้รวมตัวเลขว่ากี่กิโลเมตร แต่จะแต่จะบรรยายให้ทราบแต่ละย่างก้าวดังนี้..
๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๘  -  เดินจากบ้านที่สี่แยกห้างฉัตรไปยังหน้าตลาด - นั่งรถ บขส. ป.๒ จากตลาดห้างฉัตรไปสถานีขนส่งหมอชิต ๒
๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๘  -  นั่งรถ บขส. ป.๒ จากสถานีขนส่งหมอชิต ๒ ไปสถานีขนส่งกาญจนบุรี  -  เดินจากสถานีขนส่งกาญจนบุรีไปยังคะนาอันเกสต์เฮ้าส์ในซอยเตาปูน ๒
เช่าจักรยานออกปั่นเที่ยววัด สะพานข้ามแม่น้ำแคว สุสานพันธมิตร ตำบลท่ามะขาม พิพิธภัณฑ์ ตลาด และอื่น ๆ
๑๕ ตุลาคม ๒๕๕๘  -  ปันจักรยานระยะทาง ๓๐ กว่ากิโลเมตรไปโรงเรียนผู้นำ ตำบลหนองบัว จังหวัดกาญจนบุรี
๑๕-๑๘ ตุลาคม ๒๕๕๘  -  ปั่นจักรยานอยู่ในบริเวณโรงเรียนผู้นำ
๑๘ ตุลาคม ๒๕๕๘  -  นำจักรยานใส่ท้ายรถปิกอัพกลับไปลงที่สถานีขนส่งกาญจนบุรี -
ขี่จักรยานจากสถานีขนส่งกาญจนบุรีกลับเข้าที่พัก
๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๘  -  ปั่นจักรยานไปอำเภอท่าม่วง เที่ยวสถานที่ ๆ น่าสนใจ คือ วัดสันติคิรีศรีบรมธาตุ (วัดเขาดิน). สวนสุขภาพเทศบาลท่าม่วง. เขื่อนแม่กลอง, วัดม่วงชุม, วัดบ้านถ้ำ, วัดถ้ำแฝด, ประตูน้ำคลองชลประทาน, วัดถ้ำเสือ, วัดถ้ำเขาน้อย, ปั่นกลับตามถนนเลียบแม่น้ำแคว ข้ามสะพานถึงศาลากลางจังหวัด เลี้ยวซ้ายเข้าเมือง ไปเที่ยวตลาดชุกโดน วัดไชยชุมพลชนะสงคราม พิพิธภัณฑ์สงครามอักษะและเชลยศึก กำแพงเมือง และศาลหลักเมือง
๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๘  -  นั่งรถตู้จากสถานีขนส่งกาญจนบุรีไปสถานีขนส่งหมอชิต ๒  - นั่งรถ บขส. ป.1 จากสถานีขนส่งหมอชิต ๒ ไปสถานีขนส่งอุตรดิตถ์  - นั่งรถปิกอัพจากสถานีขนส่งอุตรดิตถ์ไปที่พักถนนสมานมิตร
๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๘  -  นั่งรถยนต์จากที่พักไปศูนย์วัฒนธรรม  -  ซ้อนมอเตอรไซค์จากศูนย์วัฒนธรรมไปสถานีรถไฟอุตรดิตถ์  -  นั่งรถดีเซลราง ขบวนท้องถิ่น 407 จากสถานีรถไฟอุตรดิตถ์ไปสถานีรถไฟห้างฉัตร  -  เดินระยะทาง ๓ กิโลเมตรจากสถานีรถไฟห้างฉัตรกลับถึงบ้าน


เปลี่ยนจากการทัวร์ต่างประเทศ เรามาท่องไทยเพื่อล้างพิษอย่างเนี้ยกันดีฝ่า! 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น