วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2558

policy บ้าบอ!

๙ สิงหาคม ๒๕๕๘  โดยเที่ยวบิน FD 650 ของ AirAsia ออกเวลา ๐๗.๔๕ น. สู่นครโฮจิมินห์หรือชื่อเก่าว่าไซง่อน... ผมพร้อมแล้วที่จะเริ่มต้นการเดินทางครั้งที่ ๓ สู่ประเทศเวียดนาม


ได้เวลาขึ้นเครื่อง... ผู้โดยสารต้องเตรียมหนังสือเดินทางและ boarding pass ไปยื่นให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบก่อนเดินออกทางประตู 6 (ขวาสุด) ไปขึ้น  shuttle bus ที่จอดรออยู่  ผมต่อคิวอยู่ด้านหลัง  เห็นฝรั่งยืนออกันเหมือนกลัวจะไม่ได้ขึ้นเครื่อง!...


พอถึงคิว ผมก็ยืนเอกสารให้เจ้าหน้าที่ AirAsia  รู้สึกแปลกใจที่ครั้งนี้ถูกถามว่าจะกลับเมื่อไหร่ พอบอกว่ายังไม่รู้เพราะจะเข้าเขมรก่อน อ้าว!  มีปัญหาซะแล้ว เค้าไม่ให้ผมผ่าน สาวชุดแดงบอกว่ามันเป็น policy ที่ว่า "บินไปก็ต้องบินกลับ"  ถูกแยกให้ไปยืนรออยู่หลังเคาน์เตอร์...ผมได้ยินเธอโทรศัพท์ติดต่อเจ้าหน้าที่ระดับสูง (เจ้านาย) แจ้งว่ามีคนไทยถือตั๋วเที่ยวเดียวไปโฮจิมินห์ซิตี้...จะให้ทำยังไง? ระหว่างรอ...ผมคิดในใจว่า "policy บ้าบออะไร! ถ้าไปเกาะสุมาตรา (อินโดนีเซีย) อย่างทริปที่แล้ว ผู้โดยสารก็ต้องบินไปบินกลับอยู่แล้ว แต่เนี่ยมันเป็นเวียดนาม จะไม่ให้เลือกที่จะเดินทางด้วยรถยนต์ออกไปยังลาวหรือเขมรเลยรึ?"  ความประทับใจในบริการของ AirAsia ของผมเริ่มลดลงอย่างรวดเร็ว!

ถึงอย่างไร ท้ายที่สุด AirAsia ก็อนุมัติให้ผมไปขึ้นเครื่องได้ สาวกราวด์โฮสเตสเขียน code TAA5045 ลงใน boarding pass ของผมแล้วบอกว่าให้ไปพูดกับเจ้าหน้าที่ ตม. เอาเอง ถ้าถูกส่งตัวกลับก็ต้องจ่ายค่าเครื่องบินเอง..


ผมแบกเป้เดินไปขึ้น  shuttle bus  ด้วยความรู้สึกไม่มั่นใจในหนทางข้างหน้า!  ภาพวันที่เดินทางถึงสนามบิน Kuala Namu (อินโดนีเซีย) ตามเข้ามาสะกิดใจ  วันนั้นเจ้าหน้าที่ ตม. ถามถึงตั๋วเครื่องบินเที่ยวกลับ ผมมีอยู่แล้วจึงผ่านได้โดยง่าย แต่สาวยุโรปที่ชวนเข้าเมืองด้วยกันกลับถูกกักตัวไว้!  ไม่รู้ว่าจะเป็นด้วยเรื่องวีซ่าหรือตั๋วเครื่องบินขากลับ??


ผมเข้าประจำที่นั่ง 15A ด้วยความวิตก!


มองออกไปเห็นท้องฟ้าหมองหม่น ความรู้สึกก็ยิ่งหม่นหมอง...


ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่สมองไร้ปิติ ผมคิดไปต่าง ๆ นา ๆ  กับปัญหาที่รออยู่เบื้องหน้า!!!  ความแจ่มใสในใจถูกบดบัง คล้ายดั่งภาพที่เห็นอยู่เบื้องหน้า...


จนได้เวลา landing  ผมเห็นวิวเมืองไซง่อนชัดเจนอยู่เบื้องล่าง...



สลัดความกังวลทิ้งไป... ผมบอกตัวเองว่า "ปัญหามีไว้แก้...ไม่ให้เข้าก็กลับ เป็นไงเป็นกัน" 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น