วันพฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

Travellin' light ไปเวียดนาม - สุสานจักรพรรดิไคดิงห์

จากสุสานจักรพรรดิมินห์หม่าง จุดหมายต่อไปคือ "สุสานจักรพรรดิไคดิงห์ (Khai Dinh)" ตั้งอยู่บนเนินเขาห่างจากตัวเมืองประมาณ ๑๐ กิโลเมตร  ผมถูกพานั่งรถต่อไปด้วยความรู้สึกไม่ตื่นเต้นยินดี...ต่างกับตอนที่ปั่นจักรยานเที่ยวชมพระเจดีย์ในพุกาม!


ได้อ่านมาว่าจักรพรรดิไคดิงห์เป็นกระเทย ประสูติเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๒๕  ขึ้นครองราชย์ พ.ศ. ๒๔๕๙ พระองค์ได้เริ่มสร้างสุสานของพระองค์เองในปี พ.ศ. ๒๔๖๔ แต่สวรรคตเสียก่อนเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๖๘ จักรพรรดิบ๋าวด่าย  (โอรสบุญธรรม) ได้ดำเนินการสร้างสุสานต่อจนแล้วเสร็จในปี ๒๔๗๕ รวมระยะเวลาก่อสร้างนานถึง ๑๑ ปี!

จักรพรรดิไคดิงห์ :  ที่มา - bbs.tiexue.net/



Khai Dinh TombEmperor Khai Dinh ruled from 1916-1925.  During the French colonial period.  Western culture rapidly gained influence.  Construction, which took place between 1920-1931, took advantage of new innovation and modern influences from the Orient and Europe to create a new architectural style.  The most notable example of this synthesis is the interior decoration of Thien Dinh Palace.
สุสานจักรพรรดิไคดิงห์สร้างอยู่บนภูเขา นักท่องเที่ยวต้องเดินขึ้นบันไดสูง ๑๐๙ ขั้น แบ่งออกเป็น ๕ ระดับ...


เดินขึ้นเรื่อย ๆ เหนื่อยนักก็พักได้ครับ...




บนชั้นที่เป็นลานกว้างมีรูปปั้นช้างม้าและขุนนางตั้งอยู่...


ได้รับอิทธิพลจากฝรั่งเศส การออกแบบจึงผสมผสานระหว่างตะวันตกกับตะวันออก มองดูเหมือนใครเอาลายมังกรไปไว้ที่เสาวิหารพาร์เธนอน...




ข้างในผมเห็นแผ่นศิลาที่จักรพรรดิบ๋าวด่ายจารึกไว้สรรเสริญพระเจ้าไคดิงห์...


คิดว่าคงไม่ได้บอกว่านำเงินภาษีของราษฎรจำนวนมากมายมหาศาลมาใช้สร้างสุสานแห่งนี้ และมีคนงานล้มตายไปมากน้อยแค่ไหนกว่าจะได้มาซึ่งสถาปัตยกรรมเช่นนี้...







จากลานชั้นนี้ขึ้นไปจะเป็นอาคารที่เห็น บางเว็บเรียกว่าพระราชสุสาน  ผมขอเรียกพระราชวัง Thien Dinh ตามที่เห็นในป้าย...


อ่านหน่อยครับ...
Thien Dinh palace with its 3 rows of halls is the most important building in the complex. The left and the right rows were reserved for the tomb caretakers and the middle row for the emperor's relics and cult. This palace especially the interior exhibit the most elaborate architectural and decorative features in the tomb complex. 

นักท่องเที่ยวขึ้นไปเดินชมได้ครับ...






รูปหล่อด้วยทองสำริดปิดทองขนาดเท่าองค์จริงของพระเจ้าไคดิงห์ หล่อในฝรั่งเศสเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๖๕...




ไม่นำมาให้เพื่อน ๆ ดูคงไม่ได้ คือภาพวาด "มังกรในม่านเมฆ" บนเพดานซึ่งวาดด้วยเท้า...


ผมอ่านเจอในเว็บหนึ่งกล่าวว่าเหตุที่จิตรกรใช้เท้าวาดก็เพราะเกลียดจักรพรรดิ อีกเว็บหนึ่งบอกว่าหากใช้มือวาดขาจะห้อยลงมา เมื่อจักรพรรดิมาตรวจงานแล้วเงยหน้าขึ้นมองจะเจอเข้ากับขาของจิตรกร ทุกคนจึงต้องห้อยหัวลงแล้วเอาเท้าจับพู่กันวาด ผมไม่รู้จะเชื่อใครดี!!


ผมสงสัยอยู่เหมือนกันว่าว่าผู้ปกครองชาวเวียดนามจะบอกลูกหลานของตนว่าอย่างไรดีเกี่ยวกับการปกครองของประเทศภายใต้อิทธิพลของต่างชาติ! การใช้เงินอย่างสิ้นเปลือง ตลอดจนศิลปะแบบจับฉ่ายซึ่งหาเอกลักษณ์แท้จริงมิได้!


หรือจะปล่อยให้เป็นแค่เพียงฉากหลังสำหรับการถ่ายรูปเท่านั้น!!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น