วันเสาร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2561

วนอุทยานแพะเมืองผี จังหวัดแพร่


ยากเห็น "แพะเมืองผี" มานานแล้ว... ผมเพิ่งได้ไปเมื่อวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ นี้เอง!




อ่านประวัติแพะเมืองผีหน่อยครับ...

คนโบราณเล่าสืบต่อกันมาว่า มียายแก่เข้าไปเที่ยวในป่าหาผักหน่อไม้มาเป็นอาหาร ได้หลงเข้าไปในที่แห่งนี้แล้วพบหลุมเงินหลุมทอง จึงเอาเงินเอาทองใส่หาบจนเต็มแล้วยกใส่บ่าเพื่อจะหาบกลับบ้าน ก็หลงไปหลงมาในป่าแห่งนั้น เพราะเทวดาอารักขาเจ้าถิ่นนั้นไม่ให้เอาไป เพียงแต่เอามาอวดให้เห็น ยายแก่คนนั้นหาหนทางเอาหาบนั้นกลับบ้านไม่ได้ จีงได้วางหาบนั้นไว้แล้วจัดแจงตัดไม้มาคาดทำเป็นราว พอถึงบ้านแล้วจึงกลับไปเอาเงินทองตามที่ราวคาดไว้ ออกไปก็ไม่ถึงสักที ยิ่งยกเท้าไปข้างหน้า ก็เหมือนยกถอยหลัง ไปอีกเหมือนหนึ่งว่ามีคนดึงหาบข้างหลัง ยายแก่จึงวางหาบไว้ที่นั่น แล้วรีบไปบอกชาวบ้านมาดูหาบเงินหาบทอง ชาวบ้านก็หลั่งไหลไปดูเป็นจำนวนมาก ครั้นไปถึงเงินทองนั้นกลับหายไป ตามป่านั้นก็พบรอยเท้า จึงสะกดรอยตามไปจนถึงข้างเสาเมโร*** และไม่มีรอยปรากฏออกไปทางอื่นเลย ยายแก่กับชาวบ้านจึงได้ตั้งชื่อสถานที่แห่งนี้ว่า "แพะ*เมืองผี**
*แพะ ภาษาพื้นเมืองแปลว่า ป่าละเมาะ
**เมืองผี หมายถึง ความเงียบเหงาวังเวงเหมือนเมืองผี
***เสาเมโร ภาษาพื้นเมืองหมายถึง เสารูปเหมือนปราสาทที่ใช้ครอบศพผู้ตายทางภาคเหนือ     





วนอุทยานแพะเมืองผี อำเภอเมือง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดแพร่ มีลักษณะเป็นเสาดินที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติของผิวโลก และการถล่มของดิน เกิดเป็นรูปดอกเห็ด และเสาดิน มีเนื้อที่ประมาณ ๕๐๐ ไร่ คำว่า "แพะ" ในภาษาสำเนียงชาวแพร่ออกเสียงว่า "แป๊ะ" หมายถึง ป่าละเมาะ ส่วนเมืองผี หมายถึงดินแดนที่เร้นลับ เพราะไม่มีผู้คนไปมาในอดีต รวมถึงสัตว์เลี้ยงประเภทวัวควาย จึงกลายเป็นเสียงเล่าลือสืบต่อกันมาว่า ครั้งหนึ่งมีชาวบ้านผ่านมายังที่แห่งนี้ และได้พบสมบัติล้ำค่า แต่ถูกผู้เฝ้าสมบัติขัดขวาง ไม่สามารถขนออกมาได้ จึงถูกเรียกว่า "แพะเมืองผี" ได้รับประกาศเป็นวนอุทยานเมื่อวันที่ ๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๒๔

หลังจากเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ผู้ดูแลพื้นที่บริเวณทางเข้าแพะเมืองผี พาไปชมต้นจิเดียมแล้วก็มอบเอกสารแผ่นพับ "วนอุทยานแพะเมืองผี" ให้ตาแก่เมืองรถม้า ๑ ฉบับ...



วนอุทยานแพะเมืองผี สังกัดสำนักงานบริการพื้นที่อนุรักษ์ที่ ๑๓ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตั้งอยู่ท้องที่ตำบลน้ำชำ อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ โดยอยู่ห่างจากตัวอำเภอเมืองแพร่ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ ๑๕ กิโลเมตร มีพื้นี่ ๑๖๗ ไร่ ๒ งาน ๑๓ ๓/๑๐ ตารางวา เดิมเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์ ได้รับการประกาศเป็นเขตหวงห้ามตามความในมาตรา ๙(๒) แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน เมื่อวันที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๑๗ และต่อมาได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่มาปฏิบัติงานประจำวนอุทยานแพะเมืองผี เมื่อวันที่ ๔ มีนาคม ๒๕๒๔

สภาพภูมิประเทศ มีสภาพเป็นป่าเต็งรัง สังคมพืชเป็นไม้ในระยะเริ่มแรก ซึ่งมีพันธุ์ไม้ชนิดต่าง ๆ ประมาณ ๖๐ ชนิด ได้แก่ เต็ง รัง เปล้าเลือด ยางเหียง แสมสาร มะเฟืองป่า ประดู่ ตีนนก แดง ไผ่ป่า และนอกจากพันธุ์ไม้แล้ว ยังมีบรรดาสัตว์ป่าต่าง ๆ ที่คงอยู่อาศัยพอจะปรากฏให้เห็นหลาย ๆ ชนิดเช่น งูสิง กิ้งก่า กระต่ายป่า กระรอกสีน้ำตาล นกแซงแซวเล็ก นกกระถัวหัวหงอก เป็นต้น

ลักษณะภูมิศาสตร์ เป็นที่ราบลอนคลื่น สูงจากระดับน้ำทะเล ๒๐๐ - ๒๑๐ เมตร บริเวณที่เป็นเสาหินเกิดจากผิวเปลือกโลกยกตัวสูงขึ้น และถูกธรรมชาติกัดเซาะในแนวดิ่งและราบ อายุประมาณ ๑๐,๐๐๐ - ๓๐,๐๐๐ ปี 

การเดินทาง มีเส้นทางคมนาคม คือเส้นทางหลวงแผ่นดินสายแพร่-ร้องกวาง จากตัวเมืองแพร่ถึงหลักกิโลเมตรที่ ๙ ทางทิศเหนือเลี้ยวขวาแยกเข้าบ้านน้ำชำประมาณ ๓ กิโลเมตรทางทิศตะวันออก เลี้ยวขวาแยกเข้าถนนสู่วนอุทยานแพะเมืองผีประมาณ ๓ กิโลเมตรทางทิศใต้  

















เดินเที่ยวแพะเมืองผีตั้งแต่ต้นจนจบ ผมไม่เจอผู้คนเลยครับ ผีก็ไม่เจอ!! :)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น