แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ naba แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ naba แสดงบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2557

Travellin’ light ไปพม่า – รอดตาย


ลงรถไฟที่สถานีนาบ้า ผมไม่มีเวลาโอ้เอ้ เพราะต้องรีบหารถไปเมือง Katha  ความจริงมีรถไฟจาก Naba ไป Katha ออกตอนตี ๕ (ค่าโดยสาร ๑๐๐ จ๊าด) แต่ตอนนี้บ่ายโมงแล้ว!

ผมได้ข้อมูลมาก่อนว่ามีรถโดยสารวิ่งจาก Naba ไป Katha ระยะทาง ๒๕ กิโลเมตร (ค่าโดยสาร ๓๐๐ จ๊าด)  ขณะที่ผมกำลังจะเดินออกไปทางด้านหลังสถานีรถไฟ    Zaonoi ก็ตามมาด้วยความเป็นห่วง ให้ความเห็นว่ารถโดยสารไป Katha ไม่มีแล้ว ต้องจ้างรถมอเตอร์ไซค์ไปส่ง  พอดีมีหนุ่มมอเตอร์ไซค์คนหนึ่งอาสาพาไปส่งในราคา ๖,๐๐๐ จ๊าด  (ประมาณ ๒๐๐ บาท)  ผมขอให้ Zaonoi เจรจาต่อรองลงมาเป็น ๕,๐๐๐ จ๊าด  (๑๖๕ บาท)   เมื่อเป็นที่ตกลง ชายพม่าผู้มีน้ำใจก็อวยพรขอให้พระเจ้าคุ้มครอง แล้วเดินกลับไปขึ้นรถไฟ ผมเดินตามคนขับมอเตอร์ไซค์ออกทางด้านหลังสถานี พบว่ามีรถยนต์จอดรอรับผู้โดยสารอยู่...

ผมบันทึกไว้ว่า...
เดินออกจากสถานีรถไฟพร้อมหนุ่มมอเตอร์ไซค์ เห็นรถคันหนึ่งกำลังจอดรอรับผู้คน คิดว่าคงเป็นรถที่จะไป Katha  ถามชายคนหนึ่ง เค้าบอกว่าค่ารถ ๖ เหรียญ  ต้องใช้บริการรถมอเตอร์ไซค์ที่ Zoanoi หาให้อยู่แล้ว ชายคนหนึ่งพูดภาษาอังกฤษได้ ถามว่าจะไปพักที่ไหน บอกว่า Ayeyarwaddy Guest House เค้ารู้ทันที...หันไปบอกสารถีให้ไปส่งที่นั่น 

ผมขึ้นนั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์ โดยไม่มีหมวกกันน็อคให้สวม  สายสะพายเป้ก็ดันมาหลุดซะ ๑ เส้น นับว่าเป็นครั้งเดียวในชีวิตจริง ๆ ที่ต้องเผชิญกับการขับขี่ท้ามัจจุราชที่ตะบึงไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ต้องนั่งตัวเกร็งไปตลอดระยะทาง ๒๕ กิโลเมตร คิดว่าถ้าตกจากรถก็คงไม่รอด ได้แต่ภาวนาให้ถึงจุดหมายโดยเร็ว...


รถทำท่าว่าน้ำมันจะหมด เสียงรถสะอึกยิ่งเพิ่มความตื่นเต้นให้อีก พอถึงจุดที่มีน้ำมันใส่ขวดวางขาย สารถีหนุ่มแวะเติมน้ำมัน ทำให้ได้พักหายใจ ใส่สายสะพายเป้ให้เข้าที่แล้วเดินทางต่อ  เสียวไส้ต่อ!


ในที่สุดก็ถึงเมือง Katha...


พอได้เห็นแม่น้ำอิรวดี ก็เหมือนกับยกภูเขาออกจากอก...


ผมรอดตายแล้ว!!

วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2557

Travellin’ light ไปพม่า – ถึง Naba แล้ว!


รถไฟวิ่งผ่านช่องแคบ บางแห่งมีหญ้าแห้งกำลังลุกไหม้  ผมสัมผัสได้กับไอร้อนที่ผ่านหน้าต่างเข้ามา จมูกก็ได้กลิ่นควันไฟ  รถไฟวิ่งเร็วไม่ได้ ต้องคลานไปช้า ๆ...



ถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่าง...ผู้โดยสารชาวพม่าคงเบื่อหน่ายกับการเดินทางอันยาวนาน  มีหลายคนนั่งหลับ


ในขณะที่ผมตื่นตาตื่นใจไปกับภาพที่เห็นข้างทาง...


ตัดไม้กันอย่างเนี้ย อีกหน่อยก็จะเหมือนเมืองไทย ซึ่งเหลือพื้นที่ป่าอีกไม่มากแล้ว!


การเดินทางเช่นนี้ ทำให้ผมได้เห็นอะไร ๆ มากกว่าชะโงกทัวร์...






ทางด้านซ้ายมือ ผมเห็นชายคนหนึ่งนอนอยู่...


เมื่อตื่นขึ้นมา...เค้าก็ง่วนอยู่กับ notebook!   อืมม..ต้องพูดภาษาอังกฤษได้แน่ ผมคิดในใจก่อนที่จะลุกขึ้นไปทักทาย "มิงกาลาบา" แล้วสอบถามถึงสถานีนาบ้า


จริง ๆ ด้วย...ผมเจอคนที่คุยกันรู้เรื่องแล้ว เป็นคริสเตียนวัย ๕๐ ปีที่พูดภาษาอังกฤษได้ ชื่อว่า Zaonoi  เขาเคยไปเรียนที่แผนกพระคริสตธรรม มหาวิทยาลัยพายัพ ๓ เดือน พอจะพูดไทยได้บ้างนิดหน่อย  Zaonoi บอกว่ารับใช้พระเจ้าอยู่ที่เมือง Namti รัฐคะฉิ่น โดยอุปถัมภ์เด็กกำพร้าไว้ ๕ คน (กำลังจะรับเพิ่มอีก)  เราคุยกันถูกคอ เขาเชิญชวนว่าถ้าผมมีโอกาสได้ไปเที่ยวพม่าอีกครั้ง ก็ขอให้ไปเที่ยวบ้าน  เราได้แลกเปลี่ยนที่อยู่และอีเมลแอดเดรสซึ่งกันและกัน...


๑๒.๒๒ น. Zaonoi บอกว่าสถานีข้างหน้าคือสถานีนาบ้า ผมนำเป้ลงมาเตรียมไว้...


รถไฟลดความเร็วลง ผมกล่าวอำลา Zaonoi และเพื่อนร่วมเดินทางซึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามทั้ง ๒ คน แล้วไปยืนต่อคิวเตรียมลง....


เมื่อรถจอดสนิท ผมก้าวลงสู่พื้นชานชาลาสถานีนาบ้าด้วยความตื่นเต้น...

Katha คือจุดหมายต่อไป! แล้วผมจะไปได้อย่างไรหละ?  

วันอังคารที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2557

Travellin’ light ไปพม่า – TRAIN No. 41 UP


รถไฟขบวนที่ 41 UP  จากมัณฑะเลย์ไปมิตจีนามีกำหนดออกจากสถานีต้นทางเวลา ๑ ทุ่ม ๔๕ นาที ตั๋วโดยสารของผมระบุว่าตู้หมายเลข 2 ที่นั่ง หมายเลข D4  ผมรอขบวนรถที่จะเข้าเทียบชานชาลาอย่างใจเย็น พร้อมกับผู้โดยสารชาวพม่าทั้งชายและหญิง...



หวังว่าสักวันหนึ่งคงมีโอกาสได้กลับมาใช้บริการรถไฟพม่าอีกครั้ง จะนั่งไปให้ถึงมิตจีนา (Myint Kyi Na) ให้ได้....


ประมาณทุ่มนึงเห็นจะได้ ขบวนรถ 41 UP ก็เข้าเทียบชานชาลา ผู้โดยสารต่างพากันขึ้นรถ  ก่อนอื่นผมต้องหาตู้หมายเลข 2 ให้ได้ก่อน จำเป็นต้องรู้จักตัวเลขในภาษาพม่าไว้บ้าง ไม่งั้นจะเป็นงง เพราะไม่มีตัวเลขอารบิกให้เห็น


นำตารางตัวเลขในภาษาพม่ามาให้เพื่อน ๆ ดู (ขอบคุณที่มา - เว็บ languageburma.wikispaces.com) เจ้าตัวที่มีลักษณะเหมือนตัว J ในภาษาอังกฤษนั่นแหละ เจอตู้หมายเลข 2  ขึ้นไปแล้วก็เดินหาที่นั่ง D4  ผมรู้สึกถูกใจเพราะเป็น window seat...


พนักเบาะมีผ้าคลุมด้วย โลโก้ของรถไฟพม่า (Myanmar Railways) ดูน่ารักดี...


ผมวางเป้ไว้บนชั้นเหนือศีรษะ...



เมื่อได้เวลาเจ้างูยักษ์ก็เลื้อยออกจากสถานี โดยไม่มีเสียงประกาศหรือเสียงระฆังบอกเตือน ผมมองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นแสงไฟเมืองมัณฑะเลย์แว๊บ ๆ ผ่านไปแล้วกลายเป็นความมืดมิดยามค่ำคืน  ไม่นานนักพนักงานรถไฟก็มาขอตรวจตั๋วแล้วใช้ปากกาขีด ๆๆ ลงบนตั๋ว  ไม่ได้ใช้ที่หนีบตั๋วเสียงดังแก็บ ๆ เหมือน รฟท.

ขอนั่งหลับให้สบายหน่อยเหอะ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว...ผมเอนกายไปทางขวา ปิดตา ปิดสวิชความคิด ไม่นานก็เข้าสู่นิทรารมณ์!

วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2557

Travellin' light ไปพม่า - ซื้อตั๋วรถไฟไป Naba

เย็นวันที่ ๑๐ เมษายาน ๒๕๕๗  ออกจาก Royal Guest House ผมแวะกินอาหารพม่าเจ้าประจำ แล้วเดินไปยังสถานีรถไฟ ผ่านจุดซึ่งเป็นที่จอด shuttle bus ของ Air Asia...




เดินขึ้นสะพานข้ามทางรถไฟ...


ตรงไปยังอาคารสถานีรถไฟ...


ขึ้นบันไดไปยังห้องจำหน่ายตั๋ว...


ไปหยุดดูตารางค่าโดยสารสำหรับชาวต่างประเทศที่หน้าห้องจำหน่ายตั๋ว พบว่าถ้าค่าโดยสาร upper class ไปลงที่สถานี Naba  ราคา $13 หรือถ้าอยากนอนก็ $16...



มีคนพม่าตรงเข้ามาช่วย ถามว่าจะไปไหน พอบอกว่า Nabra เค้าก็ชี้บอกทางไปที่เคาน์เตอร์ - บริเวณช่องจำหน่ายตั๋วที่เคยไปดู




ผมบันทึกไว้ว่า...
เข้าไปถามว่าอยากซื้อตั๋วไป Naba คนขายชี้ให้ถามซื้อที่ชายอีกคนหนึ่งซึ่งพูดภาษาอังกฤษได้ ปรากฏว่าค่าตั๋วไม่ต้องจ่ายเป็น dollars แต่เป็นเงินจ๊าด 7,200 Ks รู้สึกดีใจที่ไม่ต้องใช้ดอลล่าร์  ให้ไป 10.000 Ks  เขาขออีก 200 Ks แล้วทอนให้ 3,000 Ks  ส่งตั๋วให้แล้วแล้วอธิบายว่ารถออกกี่โมง ต้องไปขึ้นที่ชานชาลาไหน ดีจริง ๆ  ก่อนจากมาถามว่าจะถึง Naba กี่โมง เขาบอกว่า 10.32 AM  พอเดินจากมา เค้าตามมาบอกว่าให้ลงไปที่ platform 1 ซึ่งอยู่ด้านล่าง

เจอชายใจดีคนที่ชี้ช่องจำหน่ายตั๋วให้  ผมขอบคุณและบอกว่าซื้อตั๋วได้เรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็เดินลงบันไดไปยังชานชาลาเบื้องล่าง....


ไปถามเจ้าหน้าที่เพื่อความแน่ใจว่ารถจะเข้ามาจอดที่ชานชาลานี้หรือเปล่า เค้าบอกว่าต้องรอก่อน


เอาเป้และถุงผ้าวางไว้บนเก้าอี้นั่งรอของผู้โดยสาร  ผมนั่งจดบันทึก...ท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าวและกลิ่นบุหรี่!


รู้สึกดีใจที่การซื้อตั๋วรถไฟทำได้สะดวก และไม่แพงอย่างที่คิด!  จริง ๆ แล้วหารู้ไม่ว่าตั้งแต่เดือนเมษายน ๒๕๕๗ เป็นต้นไป นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศไม่ต้องจ่ายค่าโดยสารรถไฟในราคาแพงเป็นเงินดอลล่าร์อีกแล้ว (ตาราง Ticket For Foreigner สีน้ำเงินข้างบนนั่นยกออกไปได้เลย)  เราสามารถจ่ายค่าโดยสารอัตราเดียวกับคนพม่าเป็นเงินจ๊าดได้เลย จะนั่งชั้นธรรมดาไปกับชาวบ้านก็ได้  ในเว็บ seat61.com บอกว่าค่าโดยสารรถไฟ upper class sleeper จากย่างกุ้งไปพุกามเคยเป็น $40  แต่เดี๋ยวนี้เหลือแค่ 16,500 จ๊าด ( ประมาณ $17) เท่านั้น

มิน่าเล่า...ค่าโดยสารจาก Mandalay ไป Naba $13  วันนี้ผมจ่ายเพียง 7,200 จ๊าด  (237 บาท หรือ US$7.40) ถูกลงเกือบครึ่ง!

วันพุธที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2557

Travellin' light ไปพม่า - ก้าวต่อไป


สิ้นสุดการปั่นจักรยานเที่ยว Old Bagan แล้ว!  ผมมุ่งหน้าไปยังสถานีขนส่งเพื่อหาข้อมูลที่จะตัดสินใจเลือกเส้นทางข้างหน้า การเดินทางของผมไม่ได้วางแผนไว้ตายตัว เย็นนี้ถึงจะบอกได้ว่าพรุ่งนี้จะไปที่ไหนต่อ...


คุ้นเคยกับเส้นทาง...ผมใช้เวลาไม่นานก็ปั่นจักรยานไปถึงสถานีขนส่ง





สอบถามข้อมูลรถโดยสารที่จะไปเมะทีลา ตองยี และมัณฑะเลย์ แล้วนำมาขบคิดในสมองพร้อมด้วยเหตุผล ในที่สุดผมก็เลือกที่จะเดินทางกลับไปมัณฑะเลย์เพื่อนั่งรถไฟขึ้นเหนือ เพื่อน ๆ จำได้หรือเปล่าครับว่าผมเคยไปสำรวจที่สถานีรถไฟมัณฑะเลย์มาแล้ว รู้ว่ามีรถออกเวลาทุ่มกว่า ๆ  ได้อาศัยนอนบนรถไฟ ผมจะประหยัดค่าโรงแรมไปได้ ๑ คืน การเดินทางขึ้นเหนือครั้งนี้...ผมตั้งใจว่าจะไปลงที่สถานี Naba เพื่อต่อรถไปยัง Katha เมืองที่สามารถนั่งเรือล่องแม่น้ำอิรวดีกลับลงมายังมัณฑะเลย์  ได้บทสรุป...ผมตัดสินใจซื้อตั๋วโดยสารไปมัณฑะเลย์ เอากุญแจห้องพักให้เค้าดู บอกว่าพรุ่งนี้เช้าให้รถไปจอดรับที่นั่น


แผนการเดินทางก้าวต่อไปถูกกำหนดเป็นที่แน่นอนแล้ว ความตื่นเต้นกำลังจะกลับมากระตุ้นหัวใจของผมอีกครั้งในวันพรุ่งนี้!