วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2558

กลับมาเขียนต่อ...


เพื่อน ๆ ที่รักครับ!  ผมกลับจากการเดินทางไปเวียดนามและเขมรมาได้หลายวันแล้ว แต่มิได้เขียนบล็อกต่อในทันทีทันใด เพราะมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องใช้เวลาใคร่ครวญและรวบรวมประสบการณ์นำมากลั่นกรอง...ก่อนลงมือเขียนให้เพื่อน ๆ ได้อ่าน


เมื่อวันที่ ๑๗ สิงหาคมที่ผ่านมา... ผมนั่งรถ ป.1 เที่ยวสุดท้ายจากตลาดโรงเกลือเข้ากรุงเทพ ระหว่างทางทหารอากาศวัย ๖๐ ปีซึ่งนั่งอยู่เบาะหน้าได้หันมาบอกผมว่า "วางระเบิดที่ราชประสงค์...ตาย ๒๘  ตอนนี้ทหารออกมาเต็มหมดแล้ว"  เขายังได้บรรยายอีกด้วยว่ามีผู้โดนระเบิดแขนขาขาด ข่าวที่อาจเกินจริงไปบ้างทำให้ผมรู้สึกตระหนกไม่น้อย!  ความรู้สึกหดหู่หลังจากไปเห็นคุกโตนเสลง และทุ่งสังหารในพนมเปญซึ่งยังคงไม่เลือนหายโถมกระหน่ำเข้ามาอีก...เมื่อได้ยินข่าวร้าย!!


ผมอดเป็นห่่วงคนไทยไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือเยาวชนผู้เป็นอนาคตของชาติ ทุกวันนี้บ้านเราเจริญกว่าประเทศเพื่อนบ้านอย่างเขมร ลาวและพม่าในด้านวัตถุ พลเมืองค่อนข้างสุขสบายกับสิ่งอำนวยความสุข เครื่องอุปโภคและบริโภคที่รัฐจัดให้ เราไม่เคยผ่านเหตุการณ์ร้ายแรงถึงขั้นประเทศพังพินาศมาก่อน เยาวชนรุ่นใหม่ไม่สนใจในประวัติศาสตร์ ไม่เคยนำประสบการณ์อันขมขื่นของประเทศเพื่อนบ้านมาพิจารณา คนส่วนใหญ่ไม่ตื่นตัวเตรียมรับกับหายนะซึ่งอาจเกิดขึ้นกับบ้านเมืองในอนาคต

ในทริปครั้งนี้ ผมไปเห็นมาแล้วไม่ว่าจะเป็นที่เวียดนามหรือเขมร...


สัมผัสได้ในความแข็งแกร่งและอดทนของประเทศเพื่อนบ้าน...ในอดีตที่ผ่านมา


ความลำบากของนักต่อสู้เพื่อนบ้านเรานั้นมีมากกว่าที่คนไทยเคยได้รับมานับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เราสบายกันซะเป็นส่วนใหญ่... ถ้าจะเที่ยวก็ขอให้เดินทางสะดวกสบาย  มีที่พักหรู กินดี ๆ  ถ้าปั่นจักรยานก็ขอใช้รถราคาเป็นหมื่น บ้างก็เป็นแสน  ในเว็บท่องเที่ยวผมได้เห็นการโพสต์ภาพเตียงนอนหรูในโรงแรม แล้วบอกว่าถูกจังแค่พันกว่าบาทเอง หรือไม่ก็เป็นภาพอาหารเต็มโต๊ะซึ่งไม่แน่ใจว่าจะกินได้หมดหรือเปล่า ฯลฯ   ผมมิได้มีเจตนาว่าร้ายแต่อย่างใด เพราะรู้ดีว่าทุกคนมีสิทธิ์ที่จะคิดและทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ เพียงแต่ผมอยากจะขอเตือนสติให้ทุกท่านตั้งมั่นอยู่ในความไม่ประมาท เนื่องจากบทเรียนที่คนไทยจะได้รับนั้นยังมาไม่ถึง!

การเดินทางสไตล์ลุงน้ำชาแค่เพียง ๑๐ วันทำให้มีเรื่องที่จะนำมาแบ่งปันกับเพื่อน ๆ มากมายเหลือเกินครับ!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น