วันเสาร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2567

ความสุขจากการเยือนป่าช้าและทาชมภู

๑๓ มกราคม ๒๕๖๗ ปั่นจักรยานมาจากอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาน เวลา ๑๑.๔๑ น. เหลืออีก 3 กิโลเมตรถึงบ้านทาสองท่า
 
 
บนถนนหนทางดีเยี่ยม... ผมปั่นตรงเรื่อยไปด้วยหัวใจชื่นบาน จนถึงทางเข้าบ้านทาสองท่า
 
 
ตาแก่บ้านห้างฉัตรไม่ได้เลี้ยวเข้าไป แต่หยุดพักที่ป่าช้าทางด้านซ้ายมือ ปล่อยหัวใจให้สงบแลปล่อยวาง ตระหนักว่าหนทางชีวิตที่เหลือนั้นสั้นแล้ว ก่อนที่จะเก็บภาพมาฝากเพื่อน ๆ

 



 
ขี่จักรยานต่อไป ก่อนถึงสามแยก ผมเห็นป้ายบอกว่าเลี้ยวขวาไปบ้านใหม่ (เคยเลี้ยวไปแล้วเมื่อครั้งปั่น Bruiser เสือภูเขาไปแม่ออน จ.เชียงใหม่)  แต่วันนี้ต้องเลี้ยวซ้ายไปเที่ยวชมสะพานขาวทาชมภู
 
 

ถึงแล้วจ้า...สะพานทาชมภู (the white bridge) ยังติดใจเรื่องป้าช้า ที่ศาลาพักได้เห็นป้ายเชิญร่วมทำบุญก่อสร้างศาลาบำเพ็ญกุศลและห้องน้ำ ผมคิดว่า...ห้องน้ำห้องท่าและศาลาพักซึ่งมีผู้บริจาคทุนทรัพย์ในการก่อสร้างทำไว้เพื่อให้ผู้จำเป็นได้ใช้และพักพิง เป็นสิ่งซึ่งล้วนก่อประโยชน์โดยตรงให้กับเพื่อนร่วมโลก มากกว่าการก่อสร้างโบสถ์วิหารสวย ซุ้มประตูใหญ่โต หรือพระเจ้าทันใจ (พระเจ้าต๋นหลวง) เพื่อเป็น land mark บนยอดดอยเสียอีก! ตัวผมเองก็ได้ประโยชน์โดยตรงมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ไม่ว่าเป็นศาลาที่อาศัยในวัดหรือริมทางหลวง ห้องน้ำสาธารณะก็เช่นกัน ทุกวันนี้ตัวเองมิได้เป็นคนร่ำรวยมีเงินทองมากมาย ไม่มีเบื้ยหวัดบำนาญ เหลือแค่เพียงเงินเก็บก้อนนึงจากน้ำพักน้ำแรงซึ่งนำออกมาใช้กินอยู่ได้อีกสักประมาณ 10 ปี (หากประหยัดสุด) ปกติแล้วเวลาล้วงกระเป๋าทำบุญค่าน้ำค่าไฟวัดหรือหยอดตู้รับบริจาค ผมช่างเค็มยิ่งนัก...แต่ละครั้งไม่เกิน ๒๐ บาท! แต่วันนี้โอกาสดีแท้ ขอร่วมทำบุญสร้างและปรับปรุงป้าช้าบ้านทาชมภูด้วยคน ผมหลับตาเห็นภาพพื้นปูน 1 ตารางเมตรที่จะถูกสร้างแล้วสุขใจยิ่งนัก... 

 


ผมได้พบเห็นคนดีมีน้ำใจหลายคน หญิงคนหนึ่งบอกว่าที่สะพานทาชมภูแห่งนี้ หากอยากจะตั้งเต็นท์นอน ก็สามารถแจ้งกับลุงคนที่ดูแลสถานที่ได้ หาทำเลเหมาะ ๆ ตั้งเต็นท์นอนฟังเสียงรถไฟวิ่งผ่านสะพานขาวได้เลย ไม่ต้องจ่ายตังค์ค่าเช่าที่ตั้งเต็นท์นะครับ 

 

จะปล่อยปลาก็ได้จ้า...

 
วันนี้เป็นวันเด็ก เด็ก ๆ มาก็จะได้รับลูกโป่งและของขวัญที่เตรียมไว้ให้... 



ความสุขใจที่ได้รับมากจนมิอาจบรรยาย ชายแก่อย่างผมก็เหลืออยู่แค่นี้เท่านั้น!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น