วันจันทร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2554

Gary Beach Hostel. Australia

อากาศที่ลำปางยังคงหนาวเย็นพอดี ๆ ไม่ถึงขั้นกับต้องสวมเสื้อกันหนาว เช้าวันนี้ผมไปสถานีอนามัยบ้านแม่กืย ตั้งแต่ยังไม่เก้าโมงเพื่อขอรับยา สะดวกสบายมากครับ ผมได้รับยามากินต่ออีก ๒ เดือน ได้สมุดสุขภาพประจำตัวมาด้วย ๑ เล่ม และนัดเจาะเลือดใหม่อีกครั้งในวันที่ ๒๔ ม.ค. ๕๔  ทุกครั้งที่ไปรับบริการจากสถานีอนามัย ผมรู้สึกดีจังเลย ไม่รู้สึกเสียดายภาษีที่ถูกหัก ณ ที่สั่งจ่ายทุกครั้งที่รับเงินค่าจ้างเล่นเปียโนนานเกือบ ๓ ทศวรรษเลยแม้แต่น้อย ทุกวันนี้ชีวิตผมขอฝากไว้กับการรักษาพยาบาลระดับอนามัยและโรงพยาบาลศูนย์ ถ้ารักษาไม่ได้ก็ขอจากไปอย่างสงบ

ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ไม่ได้ไปเฉลิมฉลองที่ไหนทั้งสิ้น ผมหยุดพัก ทำจิตใจให้สงบ และทำงาน DIY ด้วยการรื้อผนังที่ชั้นลอย แล้วนำไม้อัดขึ้นกั้นเป็นผนังตรงบันไดขึ้นชั้นสาม ตรงนั้นเคยมีราวเหล็กกั้น แต่ถูกขโมยรื้อถอนไปชั่งกิโลขายตั้งแต่ยังไม่ได้ย้ายเข้าอยู่อาศัย ก็เพิ่งจะมีโอกาสได้กั้นเป็นผนังขึ้นมา เพราะซื้อไม้มาจากบ้านม้าจังหวัดลำพูน...


ต่อจากนี้ไป ชั้นลอยจะโล่ง ไม่มีผนังกั้น ผมตั้งใจจะจัดให้เป็นที่เก็บหนังสือและเป็นที่สอนเครื่องสาย


ถามตัวเองว่าวันนี้จะเขียนบล็อคเรื่องอะไรดี?  ผมคิดถึงแม่ผู้ยิ่งใหญ่ของผม!  ในตะกร้าเก็บเอกสาร พบ aerogramme ใบหนึ่งวางปะปนอยู่กับเอกสารอื่น ๆ มันเป็นจดหมายจากออสเตรเลียที่ผมเขียนถึงแม่เมื่อวันที่ ๒ มกราคม ๒๕๓๒ นำขึ้นมาอ่านแล้ว ก็เลยอยากจะคุยเรื่อง Youth Hostel ที่ Garie Beach


Aerogramme ฉบับนี้บอกอะไรหลายอย่าง ในยุคที่ยังไม่มี e-mail ใช้ การส่งจดหมายด้วย aerogramme เป็นสิ่งที่พวกเรานักผจญภัยท่องโลกนิยมทำกัน เมื่อ ๒๐ ปีก่อนค่าส่งจดหมายจากออสเตรเลียไปยังประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกในรูปแบบของ aerogramme ตกฉบับละ ๕๓ เซนต์หรือประมาณ ๑๐ บาท (อัตราแลกเปลี่ยนในขณะนั้น)  อีกวิธีนึงก็คือซื้อ postcard รูปสวย ๆ แล้วเขียนส่งข่าวถึงทางบ้าน ถ้าแบบนั้นต้องติดแสตมป์!


แล้วยังมีอีกอย่างที่ปฏิบัติกัน คือการให้ญาติทางบ้านส่งจดหมายไปรอ ณ ที่ทำการไปรษณีย์กลางของเมืองใหญ่ ๆ อย่างเช่นจ่าหน้าซองว่า Poste Restante G.P.O Perth W.A. 60000 AUSTRALIA เวลาผมไปถึง Perth  ผมก็ไปที่ไปรษณีย์กลางแล้วขอรับจดหมายดังกล่าว หรือถ้าเป็นเมืองที่มีสถานทูตไทยตั้งอยู่ จะใช้วิธีส่งจดหมายไปรอไว้ที่นั่นก็ได้  พอมาถึงยุคอินเทอร์เน็ต นักเดินทางคงไม่ต้องใช้การสื่อสารแบบเก่าอีกต่อไป!


เช้านี้ผมอ่านจดหมายที่มีถึงแม่แล้วอดยิ้มให้กับตัวเองไม่ได้….
ออสเตรเลีย
2 มกราคม 2532
กราบเท้า คุณแม่ที่เคารพรักยิ่ง
ขณะนี้ผมกำลังนั่งอยู่ในห้องครัวของบ้านพักที่ชายหาดซึ่งมีชื่อว่า “แกรี่” เช้านี้ท้องฟ้าแจ่มใส ลมค่อนข้างแรง ผมสามารถมองเห็นทะเลไกลออกไปสุดขอบฟ้า ที่พักที่ผมอยู่ขณะนี้เป็นบ้านหลังเล็ก ๆ ใกล้กับชายหาด มี 2 ห้องนอน ห้องหนึ่งสำหรับผู้หญิงและอีกห้องสำหรับผู้ชาย แต่ละห้องมีเตียง ที่นอน หมอนและผ้าห่ม สามารถพักได้ห้องละ 8 คน เมื่อคืนนี้ผมนอนคนเดียวที่บ้านหลังนี้ เพราะอากาศไม่ดีคนที่มาพักก่อนหน้าผมประมาณ 8 คนกลับไปกันหมด เขาทิ้งอาหารไว้ให้มากมาย รวมทั้งเครื่องดื่มและเทียนไข
ที่นี่ไม่มีไฟฟ้า อยู่ห่างจากซิดนี่ย์ประมาณ 50 กิโลเมตรกิโลเมตร ผมนั่งรถไฟจากซิดนี่ย์ไปลงที่สถานี “วอเตอร์ฟอล” แล้วโบกรถเก๋งคันหนึ่ง เขาพาไปส่งที่ชายหาดซึ่งอยู่ทางด้านตะวันออกของป่าสงวนแห่งชาติ (ทำให้ผมไม่ต้องเดิน 12 กิโลเมตรจากสถานีรถไฟ เพียงแต่เดินลัดไปตามชายหาด) เดินขึ้นเขานิดหน่อยก็ถึงบ้านพักแห่งนี้แล้ว
บ้านพักนี้ไม่มีคนดูแล เขาให้ผู้ที่มาพักรับผิดชอบตัวเอง มีห้องครัวและอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้ มีน้ำฝนใช้จากถังใหญ่ มีเตาแก๊สให้ ก่อนจะเข้าพักจะต้องไปลงทะเบียนและจ่ายเงินที่ศูนย์กลางใน ซิดนี่ย์ แล้วรับกุญแจและแผนที่… ค่าพักตกคืนละ 4 เหรียญหรือ 80 บาท ซึ่งได้ว่าถูกที่สุด โดยเฉพาะตอนนี้ผมมีความสุขมาก เสียเงินไป 80 บาทแต่สามารถเป็นเจ้าของบ้านพักบนเนินเขา ท่ามกลางธรรมชาติที่สงบและร่มรื่น มีอาหารสำรองมากมาย ได้ยินเสียงนก จิ้งหรีด คลื่นและสายลมตลอดเวลา ตอนบ่าย ๆ ก็ค่อยเดินลงไปเล่นน้ำทะเล แล้วกลับมากินอาหารเย็น (เมื่อคืนนี้ผมนอนคนเดียว หลังจากที่กินอาหารเย็นเพียงลำพัง จุดเทียนไข จดบันทึกสักพักก็เข้านอน… สงบ อากาศดี ตื่นประมาณ 6 โมงครึ่ง สดชื่นมาก) ผมจะพักอีก 1 คืนแล้วเดิน 15 กิโลเมตรไปตามชายหาด เพื่อนั่งเรือข้ามฟากแล้วต่อรถไฟกลับไปยังซิดนี่ย์….”


ผมคิดว่าจดหมายถึงแม่ฉบับนี้เป็นการฟื้นภาพความทรงจำที่ Gary Beach Hostel ของผมได้เป็นอย่างดี  ก่อนหมดเนื้อที่ใน aerogramme ผมเขียนว่า “ผมคิดถึงแม่มาก ไม่มีใครประเสริฐและมีความสำคัญเท่าแม่ ผมขอกราบขอโทษแทบเท้า แทนที่ผมจะดูแลแม่และพาแม่เที่ยวชมสถานที่ต่าง ๆ ผมกลับพาคนอื่นเที่ยวและต้องดูแลเขา ผมรักแม่สุดหัวใจและจะกลับมาหาโดยเร็วที่สุด หลังจากเดินทางท่องเที่ยวออสเตรเลียแล้ว นับตั้งแต่อยู่ซิดนี่ย์มาเกือบ 2 เดือน ผมยังไม่ได้ใช้เงินตัวเองสักบาทเดียว เพราะผมไปเล่นซึง ได้เงินมาจับจ่าย เหมือนกับว่ามีคนช่วยจ่ายค่าอาหารและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ให้ อย่างเช่นวันที่ 30 ผมไปเล่นแค่ 3 ชั่วโมงก็ได้มา 30 เหรียญหรือ 600 บาท เงินที่ทำได้ทั้งหมดตกเก้าพันกว่าบาทแล้ว ผมไม่ได้ไปทำเงินทุกวัน เพราะอยากจะพักผ่อนและท่องเที่ยวอย่างที่กำลังทำอยู่นี้บ้าง…………..”

บ่ายนี้ผมต้องเข้าเมืองเพื่อไปจ่ายค่า HiNet, ค่าโทรศัพท์ คืนนี้ค่อยกลับมาเขียนต่อนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น