นั่ง window seat ขอนำ bird's-eye view มาฝากเพื่อน ๆ...
พอเครื่องบินจอดสนิท ผู้โดยสารก็เตรียมตัวลง ผมดึงเป้ออกจากที่เก็บแล้วยืนต่อคิว เมื่อขบวนขับเคลื่อน ผมก็ขยับเดินตามไปลงบันได ไม่ยักกะมีงวงช้างแฮะ! แต่มี shuttler bus พาไปส่งยังอาคารผู้โดยสารขาเข้า ลงจากรถแล้วเดินตามไปเรื่อย ๆ จนถึง immigration เค้าขึง tape ไว้เป็นเขาวงกต ให้เดินไปหยุดรอที่หน้า counter ตม.
ผมเดินเอา passport ไปยื่นให้โดยไม่ต้องกรอกบัตร ถูกถามว่ามาทำไม? ตอบว่า...มาเที่ยว อยู่นานแค่ไหน?... อาทิตย์เดียว มีตัวเครื่องบินกลับหรือเปล่า?....มี (ล้วงเอา flight details ของ AirAsia ให้ดู) เจ้าหน้าที่ประทับตราให้โดยปราศจากรอยยิ้มและคำพูดใด ๆ...!
ก่อนหน้านั้นได้คุยกับฝรั่งสาวชาวยุโรปคนหนึ่งซึ่งนั่งรถเมล์คันเดียวกันมาจาก Komtar ผมถามว่าจะไปพักที่ไหน? เธอบอกว่าไม่รู้ แต่ผมรู้...ก็เลยชวนให้แชร์ค่ารถเข้าเมืองไปด้วยกัน เธอเห็นด้วย นำหน้าเธออยู่ประมาณ ๓-๔ คน เมื่อผ่าน ตม. มาแล้ว ผมหยุดยืนรอ เพื่อจะได้เข้าเมืองด้วยกัน พอถึงคิวของนักแบกเป้สาว ปรากฏว่าใช้เวลานานมาก ดูเหมือนว่าจะมีปัญหา ในที่สุดเธอก็ตะโกนจากเคาน์เตอร์ ตม. บอกว่า เค้าจะส่งตัวไปที่ immigration office และไม่รู้ว่าจะใช้เวลานานเท่าใด ถ้ายังไงก็ไปก่อนได้ โอเค...ผมคิดว่าเธอคงจะมีปัญหาเรื่องวีซ่า ซึ่งคงไม่ง่ายนัก ผมต้องไปก่อนแล้วล่ะ ตัดสินใจแบกเป้เดินจากมา Travel light นั้นดีจริง ๆ ทำให้ไม่ต้องไปรอรับสัมภาระที่สายพาน อีกทั้งยังไม่ต้องแลกเงิน เดินลิ่วหาทางออกได้เลย แวะหยุดถามเจ้าหน้าที่ซะหน่อยถึงรถโดยสารไป Binjai เค้าบอกว่าออกจากอาคารแล้วให้เลี้ยวขวา...
ก่อนหลุดออกไป ต้องตรวจสัมภาระอีกครั้ง ผมวางเป้ให้วิ่งผ่านเครื่อง ไม่พอ...เจ้าหน้าที่สาวบอกว่าต้องกระเป๋าคาดเอวด้วย! ได้เล้ย! เมื่อทุกอย่างเรียบโร้ย ผมแบกเป้ก้าวสวบ ๆ ออกไปยังป้ายรถเมล์...
เปลี่ยนแผนโดยไม่ต้องคิดมาก ถ้ายังมีรถ...ผมก็จะไป Binjai ในวันนี้เลย! เป็นไงเป็นกัน!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น