ผมบันทึกไว้ว่า...
รถตู้เก่ามาก...ประตูหลวมคล้ายว่าจะหลุดออกจากตัวถัง วิ่งฝ่าความมืดไปบนถนนขรุขระ - เปล่าเปลี่ยว - ขึ้นเขา ใช้เวลาร่วม ๒ ชั่วโมง ผู้โดยสารที่นั่งหน้าลงรถก่อนถึงปลายทาง เขาโบกมือให้ เหลืออยู่แค่ ๒ คนกับคนขับ...เขาจะพาไปไหนก็ไม่รู้ จะทุบตีเพื่อชิงทรัพย์ก็ทำได้ แต่ดูเหมือนว่าคนที่นี่จะไม่ดุร้าย (เช่นเดียวกันกับคนพม่า) รถตู้พาไปส่งถึงปลายทางที่ Bukit Lawang โดยสวัสดิภาพ!จอดส่งที่หน้าโรงแรมใหญ่แห่งหนึ่ง (ภายหลังรู้ว่าเป็นโรงแรมแพงที่สุดชื่อว่า Rindu Alam) มีชาย ๒ คนยืนอยู่แถวนั้น คนหนึ่งเข้ามาช่วยใช้ไฟฉายส่องสว่างตอนที่ผมควักเงินออกมาจ่ายค่ารถ L300 "ตั้ง ๑ แสน!"... ดูท่าทางเขาแปลกใจที่เห็นผมจ่ายค่าโดยสารมากถึงขนาดนั้น! ฝนเริ่มโปรยลงมา ผมบอกว่าจอง Rain Forest Guest House เอาไว้ เค้าบอกว่าอยู่ไกลออกไป รถไปไม่ได้...ต้องเดินขึ้นไปตามเส้นทางลำบาก มืด ๆ อย่างนี้ไปไม่ได้หรอก กลางวันเดินไปก็ใช้เวลาอย่างน้อย ๒๐ นาที อืมมมม์....ถ้างั้นก็ต้องหาที่พักก่อนสัก ๑ คืน ผมถูกพาไปยังโรงแรม Rindu Alam ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ ในแผนที่ใบใหญ่ซึ่งติดอยู่บนผนัง เขาชี้ให้ดูเส้นทางไป Rain Forest Guest House มันอยู่ไกลจริง ๆ ด้วย!
แล้วจะพักที่ไหนดีล่ะ? ผมสอบถามราคาที่พักโรงแรม Rindu Alam โห...คืนละ ๓๕๐,๐๐๐ รูปี (๑,๐๐๐ บาท) ถามว่าลดได้มั้ย? พนักงานโรงแรมบอกว่า "เหลือ ๓๐๐,๐๐๐" ไม่ไหว...ผมเดินออกมา ชายที่คอยช่วยเหลือเรียกเด็กหนุ่มผมยาวมาแล้วบอกให้ช่วยพาผมไปหาที่พักที่ราคาถูกกว่านั้น ผมเดินฝ่าสายฝนตามไปตามทางเล็ก ๆ ข้ามสะพานเชือกจนถึงโรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งรู้ชื่อภายหลังว่า "Wisma Leuser Sibayak"
หนุ่มคนที่พามาชื่อ "Daddy" ไปรับกุญแจมาให้เสร็จ บอกว่าค่าที่พักคืนละ ๘๐,๐๐๐ รูปี พรุ่งนี้ค่อยจ่ายก็ได้ เขาไปส่งถึงหน้าห้องพักแล้วไขกุญแจให้...
ก่อนจากไป Daddy คุยเรื่อง jungle tour ราคาล้านกว่ารูปี ผมบอกว่ายังอยู่อีกหลายวัน ตอนนี้เหนื่อยมาก อยากพักผ่อนเหลือเกิน
Daddy จากไปแล้ว! ผมล็อคประตู สำรวจห้องพักก่อนที่จะอาบน้ำเข้านอน...
ขี้เกียจกางมุ้ง...ผมเปิดพัดลมทั้งคืนแล้วซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม ในความมืดได้ยินเสียงฝนตกอยู่ข้างนอกไม่ขาดสาย!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น