ถ้ามีคำถามว่าใจคอจะเดินจากสวนให้ถึงที่พักในเมืองเชียวหรือ? คำตอบของผมคือ "เยสเชอร์" ไกลกว่านี้ก็ยังเดินมาแล้ว!
ถึงกระนั้นผมก็ไม่ได้ย่ำต๊อกตลอดเส้นทางอยู่ดี บังเอิญมีมอเตอร์ไซค์รับจ้างผ่านมาเห็นตาแก่กำลังเดินดุ่ม ชายหนุ่มจอดรถรออยู่ข้างหน้า อาสาพาไปส่งที่โรงแรมในราคา ๒ พันจ๊าด ผมรู้ว่าเดินมาได้ครึ่งค่อนทางแล้ว ขอต่อเหลือ ๑ พันจ๊าดเค้าคงจะให้ ดีกว่าวิ่งรถเปล่า...สารถีตอบตกลงทันที! พาผมนั่งซ้อนท้ายไปอีกไม่นานก็เข้าถึงตัวเมือง จักรยานยนต์ทะยานไปตามถนนมัณฑะเลย์-ลาโช
เห็นวัดสวยวัดหนึ่งอยู่ทางด้านขวามือ...ผมรีบบอกให้สารถีหยุดรถทันที! "ขอลงตรงนี้แหละ"...ผมควักแบงค์ ๕,๐๐๐ ออกจ่ายค่าโดยสาร สารถียกเบาะรถขึ้น นำเงิน ๔,๐๐๐ จ๊าดออกมาทอน โห...มีตังค์อยู่ในถุงพลาสติกเป็นปึกเลย! ผมขอบคุณหนุ่มมอเตอร์ไซค์แล้วเดินย้อนกลับไปยังวัดที่ผ่านมา ถอดรองเท้าไว้ตรงบันได แล้วเดินเข้าไปข้างใน...
ผมยิ้มให้กับเงาตัวเองในกระจกอย่างมีความสุข!
บันทึกการท่องโลกที่ค่อนข้างแตกต่าง ด้วยงบประมาณจำกัดแต่ใจเกินร้อย พร้อมที่จะเดินไปข้างหน้า เพื่อนำประสบการณ์กลับมาฝาก!
วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2557
วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2557
Travellin’ light ไปพม่า – เดินเข้าเมือง
เช้าวันที่ ๑๔ เมษายน ๒๕๕๗ Jeffy ขี่จักรยานยนต์พาผมไปส่งที่ทางเข้าสวนกันดอว์จี (1) ผมใช้เวลาหลายชั่วโมงเดินเที่ยว จนบ่ายสามโมงจึงตัดสินใจเดินออกจากสวนไปยังลานจอดรถ (2)...
ได้เวลากลับเข้าเมืองแล้ว ลาก่อนสวนกันดอว์จีที่จะอยู่ในความจดจำของผมตลอดไป...
ลาก่อนน้ำพุเย็นฉ่ำ...
ลาก่อนพุ่มไม้สวย...
พ้นจากสวนก็ไปเจอพ่อค้าแม่ค้าขายของกินเรียงรายตั้งแต่ประตูสวนไปจนถึงลานจอดรถ แปลกจัง! ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้กินอะไร ผมกลับไม่รู้สึกหิวแม้แต่น้อย!
ดีจังเลยที่ไม่มีใครให้ความสนใจ ผมไม่ถูกตามตื้อ...
เดินผ่านลานจอดรถซึ่งมีรถบัสทัศนาจรจอดอยู่หลายคัน รถบรรทุกก็มี จักรยานยนต์ก็มาก ผู้คนกำลังสนุกสนานกับเทศกาลสงกรานต์...
เดินไปตามเส้นทางที่เห็นอยู่ข้างหน้า เป็นคนเดียวที่ย่ำต๊อก พบเด็ก ๆ กำลังเล่นน้ำสงกรานต์ ผมยกกล้องถ่ายรูปให้ดู ทำท่าบอกว่าเดี๋ยวกล้องจะเปียก เด็กก็ไม่สาดน้ำใส่...
เลยได้โอกาสเก็บภาพมาฝาก...
เดินลูกเดียว....ผมมั่นใจว่าไม่หลง เพราะเห็นรถวิ่งออกมาจากสวนเป็นระยะ ๆ
ถึงถนนช่วงที่ทาขาวแดงห้ามจอด ผมก้าวต่อไปไม่หยุด...
ผ่านเขตหวงห้ามทางด้านซ้ายมือ คาดว่าคงเป็นทางเข้าเรือนรับรองของรัฐบาล...
ทุกประเทศก็เป็นเช่นนี้แหละ ผมไม่ให้ความสนใจ เดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว...
จนถึงสามแยก (3) ด้านซ้ายมีป้ายห้ามต่างชาติผ่านเข้าไป ผมแกล้งเดินไปถามทหารยามถึงทางเข้าเมือง เค้าชี้ให้ไปทางขวา (4)...
เดินต่อไป...ผมกะว่าจะให้ถึงที่พักเลยล่ะ!
ได้เวลากลับเข้าเมืองแล้ว ลาก่อนสวนกันดอว์จีที่จะอยู่ในความจดจำของผมตลอดไป...
ลาก่อนน้ำพุเย็นฉ่ำ...
ลาก่อนพุ่มไม้สวย...
พ้นจากสวนก็ไปเจอพ่อค้าแม่ค้าขายของกินเรียงรายตั้งแต่ประตูสวนไปจนถึงลานจอดรถ แปลกจัง! ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้กินอะไร ผมกลับไม่รู้สึกหิวแม้แต่น้อย!
ดีจังเลยที่ไม่มีใครให้ความสนใจ ผมไม่ถูกตามตื้อ...
เดินผ่านลานจอดรถซึ่งมีรถบัสทัศนาจรจอดอยู่หลายคัน รถบรรทุกก็มี จักรยานยนต์ก็มาก ผู้คนกำลังสนุกสนานกับเทศกาลสงกรานต์...
เดินไปตามเส้นทางที่เห็นอยู่ข้างหน้า เป็นคนเดียวที่ย่ำต๊อก พบเด็ก ๆ กำลังเล่นน้ำสงกรานต์ ผมยกกล้องถ่ายรูปให้ดู ทำท่าบอกว่าเดี๋ยวกล้องจะเปียก เด็กก็ไม่สาดน้ำใส่...
เลยได้โอกาสเก็บภาพมาฝาก...
เดินลูกเดียว....ผมมั่นใจว่าไม่หลง เพราะเห็นรถวิ่งออกมาจากสวนเป็นระยะ ๆ
ถึงถนนช่วงที่ทาขาวแดงห้ามจอด ผมก้าวต่อไปไม่หยุด...
ผ่านเขตหวงห้ามทางด้านซ้ายมือ คาดว่าคงเป็นทางเข้าเรือนรับรองของรัฐบาล...
ทุกประเทศก็เป็นเช่นนี้แหละ ผมไม่ให้ความสนใจ เดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว...
จนถึงสามแยก (3) ด้านซ้ายมีป้ายห้ามต่างชาติผ่านเข้าไป ผมแกล้งเดินไปถามทหารยามถึงทางเข้าเมือง เค้าชี้ให้ไปทางขวา (4)...
เดินต่อไป...ผมกะว่าจะให้ถึงที่พักเลยล่ะ!
วันพุธที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2557
Travellin' light ไปพม่า - so long, Kandawgyi
การเดินเที่ยวสวนกันดอว์จี เมืองพินอูลวิน แล้วนำภาพมาโพสต์อย่างต่อเนื่องเป็นเดือน ๆ ผมค่อนข้างจะมั่นใจว่าเพื่อน ๆ ที่รักคงได้เห็นในความงามของสวนนี้ได้อย่างทั่วถึงและเต็มอิ่ม อาจจะมากกว่าเว็บใด ๆ ในโลกนี้ก็ว่าได้ ผมคิดว่าคงต้องรวบรัดให้จบเรื่องนี้ได้แล้ว!
เข้าทางถนนด้านติดกับทะเลสาบ ผมเดินออกอีกทางนึง ผ่านสวนสวย เพื่อน ๆ ดูกันเองนะ...
ลาก่อนสวนกันดอว์จีที่รัก!
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)