เที่ยวมัณฑะเลย์…ผมไม่ได้เข้าชมพระราชวัง (Royal Palace) ทั้ง ๆ ที่นั่งรถเมล์ผ่านไปผ่านมา แค่มองเข้าไปก็เห็นแล้วว่า…งดงาม และกว้างใหญ่ (กำแพงแต่ละด้านยาว ๑.๖ กิโลเมตร)จริง ๆ พอดีนักเดินทาง(กึ่งฤาษี)อย่างผมก็ไม่ค่อยจะคุ้นเคยกับสถานที่ใหญ่โตรโหฐานสักเท่าไหร่ อีกทั้งตัวเองก็มีรองเท้าฟองน้ำสวมใส่ไปคู่เดียว คงไม่เหมาะสมแน่ถ้าผมจะไปเดินชมภายในพระราชวัง… พอมีเวลาเหลือ ไปเที่ยวตลาดเซโจ (Zegyo Market) ดีกว่า…พร้อมกันนั้น ผมก็ได้โพสต์รูป "ถนน #26" และ "ตลาดเซโจ" ซึ่งถ่ายด้วยกล้อง Rollei 35 ไว้ด้วยดังนี้...
นี่คือภาพแผนที่ซึ่งใช้นำทางในสมัยนั้น...
เช้าวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๕๗ ผมได้กลับไปเดินบนถนน #26 และ #27 อีกครั้ง...
ตรงมุมถนนได้พบหนุ่มพม่าใจดี...
ได้แผนที่มัณฑะเลย์มาอีก ๑ ฉบับ (ดังที่ได้เขียนเล่าไว้ ที่นี่)
๓๑ ปีผ่านไป ตลาดเซโจกลายเป็นตึกใหญ่อย่างที่เห็น!
เพื่อน ๆ ลองเปรียบเทียบกับภาพเก่าของถนน #26 และตลาดเซโจที่อยู่ข้างบนดูนะครับ ทุกวันนี้ไม่มีรถม้าให้เห็นอีก มีแต่แมงกะไซค์เต็มไปหมด!!
ถนนหนทางและบ้านเรือนเปลี่ยนไป...
ผมดีใจที่สามารถนำภาพตลาดเซโจในอดีตมาให้เพื่อน ๆ ได้ดู ตัวเองก็แทบไม่เชื่อสายตากับการเปลี่ยนแปลง! wikipedia กล่าวว่า ตลาดเซโจสร้างในสมัยพระเจ้ามินดง ใช้เนื้อที่ ๑๒ เอเคอร์ (เกือบ ๓๐ ไร่) เพื่อเป็นศูนย์รวมสินค้าการเกษตร เครื่องเพชรเครื่องพลอย เงินทอง และสินค้าหัตถกรรมอื่น ๆ ตลาดถูกไฟไหม้เสียหายหมดเมื่อปี ๒๔๔๐ ต้องสร้างใหม่อีกครั้งในปี ๒๔๔๖ โดยการออกแบบของ Count Conte Calderari ชาวอิตาเลียน ด้วยโครงสร้างแบบก่ออิฐถือปูน (ถ้าไม่ผิดคงเป็นตลาดเซโจอย่างที่ผมได้ถ่ายภาพไว้นั่นแหละ) ในปี ๒๕๓๓ ( ๗ ปีหลังจากที่ผมได้ไปเยือนและถ่ายภาพมา) ตลาดเซโจซึ่งสร้างตามรูปแบบยุคอาณานิคมก็ถูกทุบทิ้ง แล้วสร้างเป็นศูนย์การค้าอย่างที่เห็น...
ผมเคยบันทึกไว้เมื่อปี ๒๕๒๖ ว่า...
เผลองีบไปหน่อย! ตอนเย็นผมอาบน้ำแล้วออกไปเดินตลาดอีกครั้ง ซื้อสับปะรด ๐.๕๐ จ๊าด ขนมปัง ๓ จ๊าด (พบทีหลังว่าขี้นรา) และ มะม่วง ๒ จ๊าด ผมขอซื้อขนม…คนขายกลับไม่เอาตังค์ เค้าแถมให้พรี ๆ พร้อมใส่ถุงให้ด้วย!!หุหุ สับปะรดราคาครึ่งจ๊าดที่ตลาดเซโจ... มีใครเชื่อบ้าง? ขนมให้ฟรีอีกต่างหาก!!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น