มื้อเที่ยงวันนี้... ผมทำวุ้นเส้นผัดไข่ และต้มมะระใส่กุ้งแห้ง ๙ ตัว ยกลงไปให้พี่ชาย แล้วกลับขึ้นมาเอาน้ำเย็นไปให้อีก ๑ ขวด บอกกำชับว่า "อย่าลืมกินยานะ กินหรือเปล่า?" พี่ชายตอบเสียงดังว่า "กิน...ยาโรคเก๊าท์ ตอนนี้ไม่ปวดอีกเลย" ได้ท่า...ผมรีบบอกทันทีว่า "ถ้างั้น...ก็ลงไปหาซื้อกินเองได้บ้างแล้วมั้ง?" พี่ชายผมเชิดหน้ามองออกไปทางหน้าต่าง ไม่ตอบ... ไม่ใส่ใจ!
"แขนขาก็ดีครบ ไม่ปวดไม่บวมแล้ว ทำไมถึงพอใจที่จะนอนรออาหารวันละ ๓ มื้อ ดั่งลูกนกรอให้แม่คาบหนอนมาป้อน? นี่ก็เข้าปีที่ ๖ แล้วนะ!!! ฤาว่าจะรอให้ผมล้มหมอนนอนเสื่อเสียก่อน จึงค่อยคิดช่วยตัวเอง!!! บางทีถึงตอนนั้นอาจจะสายเกินไปแล้วก็ได้"....ผมแค่คิด แต่ไม่ได้พูด (รู้ตัวว่าพูดมามาก พูดจนตัวเองจะเป็นบ้าอยู่แล้ว)
ตอนลงไปเก็บจาน ผมเห็นข้าวกล้องเหลือคาชาม...
ผมรู้ว่าพี่ชายไม่ชอบกินข้าวกล้อง จึงเหลือส่วนหนึ่งทิ้งไว้ (พร้อมกับขนมชิ้นเล็ก ๆ อีก ๑ ชิ้น) ข้าวที่เห็นเป็นข้าวกล้องอย่างดีหุงให้ใหม่ ๆ! คนไม่เคยควักเงินซื้อข้าวมาหุง...ไม่รู้หรอกว่าทุกวันนี้ข้าวสารแพงขนาดไหน!
ต้องยอมรับว่า ผมรู้สึกเดือดดาลกับท่าทางของพี่ชาย ถึงกับโพล่งออกไปว่า "พรุ่งนี้จะไปเชียงใหม่ หากินเอาเองนะ ตังค์มีใช่มั้ย?"
ไม่ไหวแล้วครับ อย่าให้ผมต้องถึงกับไปพบจิตแพทย์เลย! บอกพี่ชายว่าจะไปเชียงใหม่ แต่ผมจะนั่งรถไฟฟรีไปอุตรดิตถ์ เมืองที่ผมเคยไปเล่น electone เมื่อปี ๒๕๒๖...
เคยขี่จักรยานไปพระธาตุทุ่งยั้ง...
ไม่รู้ว่าจะได้ไปหรือเปล่า ถ้าได้ไปจริง ผมจะถ่ายภาพมาให้เพื่อน ๆ ได้ดูนะครับ...
งั่ม ๆ ยังไม่ได้เตรียมอะไรเลย เดี๋ยวคืนนี้ค่อยว่ากัน!
Update - ๑๙.๒๒ น. ทำโจ๊กไปให้พี่ชาย ผมบอกว่าพรุ่งนี้จะไปอุตรดิตถ์ ให้เตรียมตังค์ไว้ด้วย ถ้ามีคนนำอาหารมาส่ง ให้จ่ายเค้าไป พี่ชายตอบว่า "เอ่อ" ....จบข่าว!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น