จำได้ติดตา...รู้ว่าวัดที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์นี้อยู่ใกล้ ๆ กับมัณฑะเลย์ฮิลล์ ผมจึงปั่นจักรยานไปเริ่มต้นการค้นหาที่ทางขึ้นมัณฑะเลย์ฮิลล์
เมื่อวานนี้ผมขี้นมัณฑะเลย์ฮิลล์ตอนหัวค่ำ ไม่ได้ถ่ายภาพสิงห์คู่ที่นั่งเฝ้าอยู่ตรงบันไดทางขึ้น วันนี้ขอลั่นชัตเตอร์ซะหน่อย...
ตรงกันข้ามมีวัดชื่อ Yadanarbon San Kyaung (4) ผมถ่ายภาพมาให้ดูอีก ๑ บาน...
ปั่นจักรยานจากจุดเริ่มต้น (1) แวะขึ้นไปดูบนเนินที่อยู่ด้านซ้ายมือ ก่อนที่จะเลี้ยวโค้งลงไปเห็นวัดอีกวัดหนึ่งอยู่ทางขวามือ (2)...
ผมจอดรถไว้ด้านหน้าแล้วเดินเข้าไป...
น่าจะเป็นวัดนี้แหละ...ผมคิดในใจ
นั่นไง...เจอแล้ว! พระพุทธรูปหินอ่อนในพระอิริยาบถประทับนั่งขัดสมาธิ พระหัตถ์ซ้ายวางหงายบนพระเพลา( ตัก ) พระหัตถ์ขวาวางบนพระชานุ ( เข่า ) นิ้วพระหัตถ์ชี้ลงพื้นธรณี...
ได้อ่านมาว่า... พระพุทธรูปหนัก ๙๐๐ ตัน สูง ๒๖ ฟุต แกะสลักจากหินอ่อนชิ้นเดียวซึ่งนำมาจากเหมืองหินสะคยินทางทิศเหนือของเมืองมัณฑะเลย์ แรงงาน ๑๐,๐๐๐ คนต้องใช้เวลา ๑๓ วันกว่าจะนำหินขึ้นบก แล้วเคลื่อนย้ายมายังที่ประดิษฐาน!
พระพุทธรูปองค์สร้างนี้ในสมัยพระเจ้ามินดง แล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๐๘ เชื่อกันว่าพระพักตร์ของพระพุทธรูปละม้ายคล้ายพระเจ้ามินดง ผมถ่ายภาพพระบรมสาทิศลักษณ์ของพระเจ้ามินดงมาให้ดูด้วย เพื่อน ๆ ว่าคล้ายกันมั้ยครับ?
ฝันเป็นจริงอีกเรื่องนึงแล้ว ต่อไปก็ต้องจัดการเรื่องซื้อตั๋ว slow boat ไปพุกาม เพื่อจะให้ได้เดินทางอย่างที่เคยทำในอดีต
ผมจะต้องปั่นจักรยานไปยังท่าเรือ (jetty) ต.ม. ตามมา... แดดอาจจะร้อนหน่อยนะครับ!
หมายเหตุ - วัดชื่อเดียวกันนี้ (Kyauktawgyi) ยังมีอยู่อีกแห่งหนึ่งที่ตองตะมาน เมืองอมรปุระ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น