ดูจากแผนที่ ถ้าขี่จักรยานถึงรูปปั้นสิงห์คู่ บนถนน 89 (ใกล้กับวัด Waiyan Bontha) ก็แสดงว่าผมอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือ Gaw Wein แล้ว...
ป้ายข้างหน้าบอกว่าผมมาถูกทาง...
เห็นคลอง Thinga Yarzar อยู่ด้านขวา...
สุดถนน 35 ผมก็ได้พบกับแม่น้ำอิรวดี จอดถ่ายภาพจักรยานคันเก่งไว้หน่อย แล้วค่อยขี่ไปท่าเรือ (jetty)
เว็บ myanmars.net กล่าวไว้ว่า...
Gaw Wein Jetty is a historical Jetty of ancient Mandalay, used by the British to put an end to the Third Myanmar Empire. Gaw Wein means west gate or the west entrance of Mandalay. King Thibaw was exiled to India from this jetty by the British. This jetty is located at the corner of 35th Street and Strand Road in Mandalay.ผมมองลงไป เห็นเรือจอดเทียบอยู่หลายลำ...
มีทั้งเรือเร็วเรือช้า...
ผมมองหาที่จำหน่ายตั๋ว ไม่รู้จริง ๆ ว่ามันอยู่ตรงไหน ท้องฟ้ามืดครึ้ม ดูท่าว่าจะมีพายุ....
เห็นชาวพม่ากลุ่มหนึ่งยืนอยู่บริเวณเกาะกลางถนน ตรงข้ามกับท่าเรือ ผมจูงจักรยานไปหา แล้วถามว่าจะหาซื้อ boat ticket ได้ที่ไหน? โชคดีมีคนหนึ่งที่พอจะเข้าใจภาษาอังกฤษ เขาตะโกนสอบถามคนอื่น ๆ เป็นภาษาพม่า ผมไม่เข้าใจ...ได้แต่มองหน้าคนนั้นที คนโน้นที ในที่สุดเขาก็อาสาพาไปส่ง คว้าจักรยานยนต์แล้วออกขี่นำหน้า...ให้ผมปั่นจักรยานตาม (เส้นสีแดงในภาพถ่ายดาวเทียม)
พายุแรงขึ้น ผมต้องออกแรงปั่นฝ่าทั้งลมและฝุ่น ตามไปจนถึง cabin เล็ก ๆ (ลักษณะคล้าย ๆ ตู้คอนเทนเนอร์) ตั้งอยู่ริมทางที่ผมปั่นผ่านไปแล้วครั้งหนึ่ง หนุ่มพม่าผู้ใจดีพาผมเปิดประตูเข้าไปใน office มีชายลักษณะคล้ายคนจีนพูดภาษาอังกฤษได้ดี กับพนักงานสาวอีก ๑ คน เขาบอกว่าที่นั่นไม่ได้เป็นที่จำหน่ายตั๋ว slow boat แต่เป็นบริษัทท่องเที่ยวที่มีเรือล่องระหว่างมัณฑะเลย์และพุกาม เป็น "River Cruise" ราคาค่าโดยสารพร้อมอาหารคือ $45 คงจะดูออกว่าเจ้าหมอเนี่ยคงไม่สนใจซื้อเป็นแน่แท้แต่ก็ยังต้อนรับขับสู้...สาวพม่ายื่นน้ำดื่มขนาดครึ่งลิตรให้ ๑ ขวดเพื่อดับกระหาย
ผมถามว่าแล้วจะซื้อตั๋ว slow boat ที่ต้องการได้ที่ไหน? คำตอบคือต้องไปซื้อที่ท่าเรือโน่น อ้าว...ผมไปมาแล้วไม่เห็นมีที่ขายตั๋วเลย เค้าบอกว่าต้องลงไปซื้อถึงข้างล่าง ตกลงผมต้องขี่จักรยานย้อนกลับไปอีกหรือเนี่ย? พายุกระหน่ำแรงขึ้น ผมลืมตาแทบไม่ขึ้นเพราะฝุ่น ต้องแข็งใจปั่นจักรยานต้านลมกลับไปท่าเรือ (เส้นสีเขียว)
พอไปถึง เทวดาคงจะปรับลูกบิดเร่งเต็มที่ ทั้งลมทั้งฝุ่นทำเอาผมเกือบยืนไม่ติด ต้องหลับตาและกลั้นหายใจ...พยายามประคองจักรยานเอาไว้ไม่ให้ล้ม!!
ใบไม้ร่วงหล่น พร้อมกับเสียงหวีดหวิวของลมพายุ ผมอยากถ่ายวิดีโอมาให้เพื่อนดู...แต่ไม่สำเร็จ
ไม่ได้เดินลงไปดูข้างล่าง (ตรงที่มีเรือเทียบ) เพราะเชื่อว่าคงไม่มีตั๋ว slow boat จำหน่าย! ผมจูงจักรยานไปที่เกาะกลางถนนอีกครั้ง เจอหนุ่มพม่าคนที่ขี่มอเตอร์ไซค์นำทางผมไปหาซื้อตั๋วยังคงอยู่ที่นั่น ผมบอกว่าที่ไปส่งเมื่อกี้นี้ไม่มีตั๋วเรือ(ช้า)อย่างที่ต้องการ ท่าทางของผมคงจะดูน่าเวทนาสุด ๆ หนุ่มพม่าเดินไปหาคำตอบอีกครั้ง แล้วกลับมาบอกว่าคราวนี้จะพาไปที่ใหม่ ให้ขี่จักรยานตามไปอีก ผมจูงจักรยานลงไปตั้งตัวแล้วปั่นตามไป (เส้นสีฟ้า) ผมพยายามถีบสุดแรงเพื่อตามให้ทัน เลี้ยวขวาออกไปตามถนนอีกเส้นหนึ่ง จนถึงอาคารสองชั้น ประตูหน้าต่างทาสีเขียว หนุ่มผู้มีน้ำใจบอกผมว่า "ที่นี่แหละ"
จริงด้วย! มาถูกที่แล้ว ที่นั่นคือ Inland Water Office เป็นที่จำหน่ายตั๋วเรือไปพุกาม ผมขอบคุณ จับมือกันก่อนที่เขาจะขี่รถออกไป...
ซื้อตั๋วกับเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง...ผมยื่นหนังสือเดินทางให้ พร้อมกับเงิน $15 เจ้าหน้าที่บันทึกลงสมุดแล้วออกตั๋วใบเล็ก ๆ ให้ บอกด้วยว่าเรือออกเวลา 5.30 AM แต่ให้ไปถึงท่าเรือเวลา 5.00 AM
ซื้อตั๋วเรือได้แล้ว ผมเดินมาหาจักรยาน ลมพายุสิ้นฤทธิ์แล้ว ทิ้งเศษใบไม้ไว้เกลื่อน แถมยังทำให้เกิดเพลิงไหม้ที่ไหนสักแห่งหนึ่ง ผมได้ยินเสียงหวอรถดับเพลิง เห็นเจ้าหน้าที่ Inland Water ออกมายืนแหงนหน้าดู!
เกือบ ๕ โมงเย็น...เห็นท่าจะต้องกลับที่พักแล้วล่ะ!
ตอนนี้ผมบอกได้แล้วว่าพรุ่งนี้อยู่เที่ยวอีก ๑ วันเต็ม ๆ ก่อนจะนั่งเรือจากมัณฑะเลย์ไปพะโคะคุ (Pakokku) วันมะรืนนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น