จากกัวลากังซาร์ไปอีโปห์ระยะทาง ๕๐ กิโลเมตร สำหรับการปั่นจักรยานโครงเหล็กสามสปีดที่มีถุงทะเลบรรจุของเต็มพิกัดมัดอยู่ข้างหลัง ถ้าไม่บอกว่า "โหดสุด ๆ" ก็ไม่รู้ว่าจะว่าอะไรแล้ว!
ระยะทางอีก ๗๐ กิโลเมตจากอีโปห์ไปบิดอร์ก็ใช่ว่าง่าย พลังจากเค้กและขนมปังไม่น่าจะทำให้ผมปั่นได้ไกลถึงขนาดนั้น!
Tunnel of Death - ภาพโดย Polycarp Norbert Nyulin - thanks! |
ภายในอุโมงค์ - ภาพจาก skyscrapercity.com - thanks! |
พอดีไปค้นเจอที่ผมได้เขียนไว้เมื่อเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๗ จึงขอนำมาสรุปไว้อีกครั้งดังนี้...
ตื่นแต่เช้ามืดเมื่อแสงสว่างจับขอบฟ้า ก็จัดการเก็บเต็นท์และข้าวของ เสียดายที่ไม่ได้รอให้เต็นท์แห้งเพราะต้องรีบออกเดินทาง แบกเจ้าลมม้า (ชื่อจักรยาน) ไปตั้งไว้บนทางหลวงแล้วค่อยเอาถุงทะเลขึ้นมัด…เพื่อน ๆ ที่รักครับ ความเปลี่ยนแปลงได้เกิดขึ้นหลังจากผ่านไป ๒๙ ปี ผมดูภาพถ่ายดาวเทียมแล้วพยายามคิดว่าริมทางหลวงที่ผมหยุดพักค้างแรมในคืนวันน่าจะอยู่ตรงไหน ก็ได้ภาพนี้มาครับ...
๘.๐๐ น. ออกเดินทางไปตามซุปเปอร์ไฮเวย์ซึ่งตัดผ่านภูเขา เผชิญกับทางชันเป็นระยะยาวติดต่อกัน เกือบหมดทางที่จะเอาชนะ ต้องหยุดพักเป็นระยะ ๆ ดื่มน้ำในขวดจนหมด ปั่น ๖๖ ครั้งแล้วหยุดปล่อยให้รถวิ่งไปข้างหน้าแล้วปั่นต่ออีก สลับไปเรื่อย ๆ ถึงจุดที่เกือบเป็นลมต้องหยุดข้างทางแล้วลงไปดื่มน้ำจากน้ำตกโดยไม่หวั่นเกรงเชื้อโรค...
ในที่สุดก็ถึงทางลงเขาซึ่งยิ่งน่ากลัวเพราะรถวิ่งเร็วตลอดระยะ ๔-๕ กิโลเมตร ต้องผ่านอุโมงค์ยาวซึ่งทันสมัยมาก ถึงอีโปห์ เวลาประมาณเที่ยงวัน แวะที่ร้านขายของข้างทาง สั่งสไปร์ทมาดื่ม ๒ ขวด เค้าคิด ๑ เหรียญ เจ้าของร้านเป็นคนจีน สามีเป็นแขก นำส้มโอมาให้กินและทำน้ำอ้อยให้อีก ๑ แก้ว นั่งพักอยู่นานจนหายเหนื่อยแล้วปั่นต่อ….
๑๓.๓๐ น. ออกเดินทางจากอีโปห์ หนทางธรรมดา แวะกินลอดช่อง ๑ ถ้วย (๔๐ เซนต์)
แวะกินน้ำมะพร้าว ๑ ถ้วย (๕๐ เซนต์)
เวลา ๑๖.๐๕ น. พบกับชายมาเลย์ชื่อ Mailon อายุ ๒๘ ปี (เคยปั่นจักรยานจาก KL ไปปาดังเบซาร์) บอกว่าจะให้ที่พักในกัวลาลัมเปอร์ นัดกันวันพรุ่งนี้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ (ตรงเครื่องบินเก่า) เวลา ๖ โมงเย็น
ปั่นต่อไปอีกจนใกล้ค่ำที่บิดอร์ เห็นลำห้วยและที่ราบพอจะตั้งเต็นท์ได้ เลี้ยวรถเข้าไปหาที่ตั้งเต็นท์ ถูกมดแดงกัด คนงานคนหนึ่งบอกว่าให้พักข้างบนจะดีกว่า เพราะข้างล่างมียุงมาก และอาจมีงู
ตกลงตั้งเต็นท์ข้างบน รอให้มืดก่อน คือประมาณทุ่มกว่า ๆ ตอนแรกอากาศร้อน พอตกดึกอากาศเย็นลง มีน้ำค้างตกจนเต็นท์เปียกชุ่ม อาหารค่ำมีเค้กและขนมปังนิดหน่อย…
ประมาณได้ว่าตรงจุดสีเหลืองนั่นแหละที่ผมหลบเข้าพักค้างคืน จำได้ว่าอยู่ริมธารน้ำไหล เต็มไปด้วยต้นไม้เขียวครึ้ม ที่เห็นในภาพเป็นทางหลวงสร้างใหม่ แต่ก่อนยังไม่ได้เป็นถนนคอนกรีต จากไหล่ทางผมสามารถจูงจักรยานลงไปได้เลย รอให้ใกล้ค่ำถึงค่อยตั้งเต็นท์ คืนนั้นอากาศหนาวเย็น ผมสะดุ้งตื่นกลางดึก ได้ยินเสียงสัตว์ขนาดใหญ่กำลังสูดหายใจ เดินดมกลิ่นแปลกปลอมอยู่รอบเต็นท์!!!
ไม่ได้รูดซิปโผล่หัวออกไปดู...ผมได้แต่นอนฟังและพยายามข่มตาหลับ!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น