หนังสือเก่าก็มีนะครับ อย่างเช่น "ตำรายาพระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์" พิมพ์เมื่อปีกุญ พ.ศ. ๒๔๖๖ เล่มนี้...
พอดีได้ไปเยือน "พิพิธภัณฑ์เขลางค์นคร" ซึ่งอยู่ในวัดพระเจดีย์ซาวหลังแล้วได้เห็นของเก่ามากมาย ส่วนหนึ่งเป็นธนบัตรและเหรียญกษาปณ์อย่างที่ผมมี วันนี้ก็เลยอยากชวนเพื่อน ๆ ไปดูด้วยกัน...
เว็บฐานข้อมูลพิพิธภัณฑ์และศูนย์ศิลปวัฒนธรรมในประเทศไทยกล่าวถึง "ประวัติความเป็นมาและการก่อตั้งพิพิธภัณฑ์พิพิธภัณฑสถานเขลางค์นคร" ไว้ดังนี้...
วัดพระเจดีย์ซาวหลังดำริที่จะสร้างพิพิธภัณฑ์ขึ้นเพื่อรวบรวมของเก่าแก่ในจังหวัดลำปาง เพื่อการสืบค้นความเป็นมาในเชิงการศึกษาของคนรุ่นใหม่ให้เป็นแหล่งเรียนรู้แก่เยาวชนในท้องถิ่น และเพื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในวัดพระเจดีย์ซาวหลัง พระจินดารัตนาภรณ์ได้รวบรวมของเก่าแก่ที่เจ้าอาวาสองค์ก่อน ๆ ได้รวบรวมไว้สร้างเป็นพิพิธภัณฑ์บนศาลาวัด ตอนแรกของเก่าก็มีเพียงไม่กี่อย่าง ได้แก่ มีดดาบ ปืนคาบศิลา ด้ามพร้า และพระพุทธรูปเก่า ๆ เพียงไม่กี่องค์ แต่เมื่อมีคนสนใจมาชมมากขึ้น จึงมีผู้บริจาควัตถุโบราณของเก่าแก่ที่ตนเองเก็บสะสมและสืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน หรือเวลาที่เจ้าอาวาสไปพบเห็นที่อื่นก็จะขอบริจาค หรือไม่ก็ขอซื้อมารวบรวมเอาไว้มากขึ้นเรื่อย ๆ ปี พ.ศ. ๒๕๓๖ ทางจังหวัดเห็นความสำคัญจึงได้จัดสรรงบประมาณพัฒนาจังหวัด เพื่อสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์ขึ้นเป็นการถาวร ใช้ชื่อว่า “พิพิธภัณฑสถานเขลางค์นคร” เป็นอาคาร ๒ ชั้น บันไดด้านหน้าจะเห็นครุฑแกะสลักด้วยไม้สักขนาดใหญ่นำมาจากศาลาหลังเก่ามีอายุไม่ต่ำกว่า ๓๐๐ ปี การจัดแสดงภายในอาคารจัดแสดงวัตถุโบราณหลากหลายชนิดอาทิ ธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ เงินตราสกุลต่าง ๆ ทั้งของไทยและของต่างประเทศ พระพุทธรูป พระเครื่องเก่าแก่ ข้าวของเครื่องใช้สมัยโบราณที่แสดงถึงวิถีชีวิตของคนลำปาง ฯลฯขอขอบคุณที่มาของข้อมูล ผมเก็บภาพมาให้เพื่อน ๆ แล้วนะครับ (โพสต์ได้ไม่มากเพราะเนื้อที่จำกัด ความจริงมีมากกว่านี้)
ผมยังนึกไม่ออกว่าจังหวัดลำปางมีพิพิธภัณฑสถานที่ใหญ่กว่านี้หรือเปล่า?
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น