จากนั้นก็ปั่นไปอีกประมาณ ๑ กิโลเมตร... ถึงสะพานนาคราชข้ามคู (2) ไปสู่ประตูทิศใต้ (south gate) ของนครธม...
นครธมมีเนื้อที่กว้างใหญ่กว่านครวัดหลายเท่า ตรงกลางคือปราสาทบายน (Prasat Bayon) ตื่นตากับซุ้มประตูที่เห็นเบื้องหน้า... ผมจอดจักรยานไว้ก่อนข้ามสะพาน (1) เพื่อชื่นชมความมหัศจรรย์ของมรดกโลก!
เว็บ japaness.net เขียนไว้ว่า...
นครธม สร้างในปีพุทธศตวรรษที่ ๑๘ ในรัชสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ (ครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. ๑๗๒๔ - ๑๗๕๘) เป็นศิลปะแบบบายน คำว่านครธมนั้นมีความหมายว่าเมืองใหญ่ ธม แปลว่า ใหญ่ โดยมีปราสาทบายนเป็นศูนย์กลางของนครธม ในส่วนของนครธมนั้นมีจุดเด่นๆที่นักท่องเที่ยวนิยมชมกันก็คือ สะพานนาคราช ซึ่งด้านหนึ่งเป็นศิลาสลักเป็นรูปเทวดากำลังฉุดนาค ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นรูปอสูรซึ่งมีขนาดใหญ่มากกว่า ๕ เท่าคนจริงรวมกันถึง ๑๐๘ ตน เป็นสะพานที่พระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ กษัตริย์เขมรใช้เป็นทางเสด็จผ่านเข้าออกเมืองนครธม นอกจากนี้ยังมี ประตูเมือง ที่มียอดเป็นรูปพระโพธิสัตว์หันพระพักตร์ไปทั้ง ๔ ทิศ...
ปั่นจักรยานมาอยู่กลางสะพาน...
แล้วตรงไปผ่านซุ้มประตูเมือง (3) ที่ผมเคยฝันอยากมา...
เข้าสู่อาณาเขตนครธม...ผมปั่นจักรยานไปบนถนนลาดยางไม่ถึง ๕๐๐ เมตร ก็เห็นวัดเขมรอีกวัดหนึ่ง (4) อยู่ทางด้านซ้ายมือ มีรึที่จะไม่แวะเข้าไป!
ชื่อวัดเป็นภาษาขะแมร์ ผมจนด้วยเกล้า...ไม่สามารถบอกเพื่อน ๆ ได้ว่าชือวัดอะไร?
อุโบสถโล่งเช่นนี้ผมเพิ่งเคยเห็น...
ถ่ายภาพใบเสมามาให้เพื่อน ๆ ดูด้วย...
หน้าบันเรียบง่ายแต่สวย!
นั่นคงเป็นศาลาอเนกประสงค์ ผมเห็นกุฏิสงฆ์อยู่ด้านหลัง...
มีฝรั่งนั่งตุ๊ก ๆ ผ่านไปคันแล้วคันเล่า วัดนี้มีอุโบสถและวิสุงคามสีมาที่สมบูรณ์ มิได้เป็นแค่สำนักสงฆ์หรือวัดป่า พอดี อยู่นอกสายตาจึงยังไม่มีข้อมูลในอินเทอร์เน็ต! ผมยินดีที่ได้แวะมาครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น