"ลานพระเจ้าขี้เรื้อน" สร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ ๑๗ - ๑๙ รัชสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ และมีการบูรณะเพิ่มเติมสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ ๘ ด้วยศิลปะบายน เชื่อกันว่าเป็นศาลตัดสินโทษ สันนิษฐานว่าผนังของลานถล่มและได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ทั้งหมด มีความยาว ๒๕ เมตร สูง ๖ เมตร(ที่มา - เว็บ thailandsworld.com และ oceansmile.com)
ภาพสลักนูนสูงที่ระเบียงเป็นภาพพญายมมีนางนาคอยู่ทั้งสองข้าง กล่าวถึงเมืองบาดาลอันเป็นที่พักอาศัยของนาค ที่มุมระเบียงมีภาพสลักนูนสูงของนาค ๙ เศียรและ ๕ เศียรอยู่ข้างบน ภาพพญายมจะถือพระขรรค์นั่งในท่าขัดสมาธิและชันเข่าถ้าเป็นสตรีมักจะมีศิราภรณ์ (คล้าย ๆ มงกุฏ) สวมใส่บนศีรษะ นั่งในท่าพับเพียบหรือชันเข่า มือประนมถือดอกบัว มีบางรูปที่แขว่งพระขรรค์แขนตั้งวงโค้งวางมืออยู่บนศีรษะอย่างสวยงาม ภาพสลักนูนสูงแถวที่สอง เป็นรูปยักษ์และรูปครุฑ ซึ่งมีทั้งรูปจริงและรูปจำแลง ภาพสลักแถวที่สามเป็นรูปเทวดา
ลานนี้ตั้งชื่อตามรูปปั้นพระเจ้าขี้เรื้อน โดยมีรูปปั้นจำลองอยู่ด้านบนสุดของลาน รูปปั้นแกะสลักองค์จริงชื่อว่า “ ธรรมราชา” (หมายถึงเทพแห่งความตายของฮินดูชื่อว่า “ ยมะ”) มีอายุตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ ๑๕ หลังจากที่สร้างลานแห่งนี้มาประมาณ ๒๕๐ ปี ปัจจุบันนี้เก็บรักษาอยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพนมเปญ
จากลานพระเจ้าขี้เรื้อน ผมเดินไปเขาวงกต...
สุดท้ายก็ไม่เจอเมืองบาดาล...
แหม...นึกว่าจะได้เจอนางพญานาคแปลงตัวเป็นสาวสวยซะอีก!! ไปกันต่อดีฝ่า...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น