FB Trip ครั้งนี้สิ้นสุดเร็วกว่าที่วางแผนไว้ ผมเองก็คาดไม่ถึงเหมือนกันว่า เช้าวานนี้ (๑๓ เมษายน ๒๕๕๙) ผมยังปั่นจักรยานจากไซยะบูลีมุ่งหน้าสู่เมืองหงสาอยู่เลย...
บ่ายจัด ๆ แล้วก็ยังอยู่ห่างจากเมืองหงสาตั้ง ๔๐ กิโลเมตร...
ถึงตอนนั้นผมหมดแรงข้าวต้มแล้วล่ะ มีแนวโน้มว่าอาจต้องนอนกลางภู โดยปราศจากเครื่องนอน น้ำ และอาหาร เดชะบุญเหลือเกิน (ในสภาวะเช่นวันวาน...คงจะไม่มีใครโชคดีอย่างผมเป็นแน่แท้)
ระหว่างที่นั่งหมดแรงอยู่ข้างทางขึ้นสู่ยอดเขา มีรถปิกอัพวิ่งผ่านมาเห็นแล้วจอด ผมรีบลุกขึ้นวิ่งไปหา พูดลาวขออาศัยไปลงหงสาเพราะปั่นต่อไม่ไหวแล้ว ชาย ๒ คนซึ่งนั่งอยู่ข้างหน้าใจดีให้ผมยกจักรยานขึ้นหลังรถแล้วอาศัยไปด้วย....
นั่งไปอีกพักใหญ่ รถปิคอัพจอดเบา ผมจึงได้รู้ความจริงว่ารถที่นั่งมาเป็น "รถไทย" ป้ายทะเบียนเชียงใหม่ (ทีแรกดีใจ.. ผมไม่ทันได้ดูป้ายทะเบียน) คนขับและผู้ที่นั่งมาด้วยเป็นคนลำพูน (อู้กำเมือง) เดินทางมาจากหลวงพระบางกำลังจะกลับเข้าไทย...
นี่แหละที่ผมว่าจังหวะดีเช่นนี้หาได้มีง่าย ๆ ไม่...โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตาแก่ผู้หมดสภาพที่จะเดินทางต่อไปแล้ว!!
ผมดีใจมากที่รู้ว่ารถที่นั่งมาเป็นรถที่กำลังมุ่งหน้ากลับลำพูนภายในวันนี้ สนทนาด้วยกำเมืองดังนี้...
"ตี้ลำปาง...บ้านอ้ายอยู่ไหน?"สบายสุด ๆ ครับ สำหรับการเดินทางมาบนกระบะปิคอัพ ผมนอนหนุนเป้มาตลอดทาง ตั้งแต่ฟ้ายังไม่มืด จนเห็นพระจันทร์ครึ่งเสี้ยววิ่งตาม...
"อยู่ห้างฉัตรครับ ตั้ดสี่แยกฮั่นเลย"
"อ๋อ...ตั้ดป้อมตำรวจ ปั้มเชลล์แม่นก่อ? อั้นก่อส่งลงหน้าบ้านได้เลยก่า!"
ไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าจะสามารถเดินทางรวดเดียวจากไซยะบูลี (๖.๐๐ น.) - หงสา - เมืองเงิน - ห้วยโก๋น - เฉลิมพระเกียรติ - ทุ่งช้าง - น่าน - แพร่ - เมืองลอง - ลำปาง - ห้างฉัตร แล้วเปิดประตูเข้าบ้านเมื่อเวลา ๒๔.๔๙ น.
วันนี้ขอเพียงแจ้งข่าวให้เพื่อน ๆ ทราบไว้ก่อนว่า ผมได้กลับถึงบ้านที่ห้างฉัตรโดยสวัสดิภาพแล้ว การเดินทางบรรลุเป้าหมายทุกประการ ถ่ายภาพได้ประมาณ ๗๕๐ บาน และมีเรื่องให้เขียนมากมาย...
และขอกราบขอบพระคุณคนหละปูนทั้งสองที่ได้ช่วยให้ผมผ่านวิกฤตมาได้อย่างปลอดภัย การช่วยเหลือครั้งนี้ผมคงมิอาจลืมได้ชั่วชีวิต!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น