นำเพื่อนยากไปทิ้งไว้ที่จุดจอดจักรยานยนต์หน้าห้องสุขา ผมเดินขึ้นบันไดนาคโดยไม่สนใจนั่งรถรางไฟฟ้าค่าโดยสาร ๑๐ บาท...
เห็นบอกว่ามีบันไดกว่า ๑๕๐ ขั้น ความชันประมาณ 60 องศา...
พอก้าวพ้นขึ้นไปถึงข้างบน สิ่งที่ปรากฏต่อสายตาคือ "หลวงพ่อชินประทานพร" พระพุทธรูปใหญ่ที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรีปางประทานพร สูง ๙ วา ๙ นิ้ว หน้าตัก ๕ วา ๓ ศอก ๙ นิ้ว องค์พระประดับด้วยกระเบื้องสีทอง...
บนลานกว้าง ผมเห็นมณฑปงดงาม...
"พระอุโบสถอัฐมุข" ซึ่งมีมุข ๘ ด้าน...เปรียบได้กับการเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปยัง ๘ ทิศ
ภายในประดิษฐานพระประธาน พร้อมจิตรกรรมฝาหนังและลายประดับบนเพดานที่สวยงาม
มีฆ้องให้ใช้มือลูบเพื่อกอบเงินกอบทองกลับบ้าน...
"ซุ้มเสมา" เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับอุโบสถ...
ผนังด้านนอกและซุ้มหน้าต่างดูวิจิตร...
มีบ่อน้ำทิพย์ด้วยนะ...
วิหารทรงแปลกตามีนาคา ๓ เศียรหย่อนตัวลงมาจากยอดโดม...ไม่ทราบจริง ๆ ว่าเป็นอะไร? ผมไม่ได้เข้าไปดูข้างใน!
แต่ที่เข้าไปคือถ้ำ ซึ่งมีทั้งหมด ๔ คูหา ห้องโถงใหญ่นั้นประดิษฐานพระพุทธรูป!
ถัดออกมาด้านนอก เป็นศาลาการเปรียญซึ่งประดิษฐานสังขารหลวงปู่ชื่นในโลงแก้ว แล้วก็ยังมีศาลาประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อชื่นพระธุดงค์ผู้มาพบถ้ำเสือ และหลวงพ่อชื่นผู้บูรณะปฏิสังขรวัด...
ยังมีอีกจุดหนึ่งซึ่งยังมิได้กล่าวถึงคือ "พระเจดีย์เกศแก้วมหาปราสาท" สูง ๙ ชั้น...
ไปถึงวัดถ้ำเสือ...ก็ต้องขึ้นไปให้ถึงชั้นบนสุด!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น