เดินจาก Royal Guest House ไปตามทางที่คุ้นเคย มีแขกขายขนม (อย่างที่เคยเห็นในอินเดีย) ตั้งรถเข็นอยู่ตรงมุมถนนที่เลี้ยวออกไปยังถนน #26 นึกได้ว่ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย ตั้งแต่กินข้าวของชายใจดีบนเรือ...ผมล้วงเงิน ๑,๐๐๐ จ๊าด ออกมาซื้อขนมหวาน ๗๐๐ จ๊าดและน้ำดื่ม ๑ ขวด (๓๐๐ จ๊าด) เดินขบเคี้ยวไปเรื่อย ๆ จนถึงสะพานข้ามทางรถไฟ...
ผมเดินขึ้นไปยังห้องจำหน่ายตั๋ว เงียบ! ไม่มีเจ้าหน้าที่ เกือบจะ ๕ ทุ่มอยู่แล้ว...คงจะปิดทำการ! รถไฟที่ผมจะนั่งไปพินอูลวินคือขบวน 131 เที่ยวขึ้น (จาก Mandalay ไป Lashio) ออกจากสถานีเวลา ๐๔.๐๐ น.
จากนี้ผมก็คงต้องนั่งรอไปเรื่อย ๆ จนกว่าที่จำหน่ายตั๋วจะเปิด มองหาที่ ๆ พอจะนั่งหลับนก เดินไปด้านข้าง ถามเจ้าหน้าที่ซึ่งพูดกันไม่ค่อยรู้เรื่อง ดูเหมือนว่าเก้าอี้ที่ตั้งอยู่ข้างหน้า พอจะอาศัยนั่งได้ ผมวางเป้ไว้ข้าง ๆ แล้วนั่งรอ ไม่นานนักเจ้าหน้าที่อีกคนก็มาบอกว่าตรงนั้นนั่งไม่ได้ ต้องไปนั่งรอที่ชานชาลาด้านล่างโน่น
เดินลงไปนั่งรออยู่ที่ชานชาลา ๑ ใกล้ ๆ กับทางออก เวลาผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงพนักงานรถไฟอีกคนก็มาไล่ให้ออกไปอยู่ด้านนอก ผมหิ้วเป้เดินออกไปหย่อนก้นบนเก้าอี้สีสด มองเห็นเจ้าคนที่มาไล่กำลังจัดเตรียมใช้ที่ตรงนั้นเป็นที่หลับนอน อ่อ...พนักงานรถไฟก็ได้เวลานอนแล้วเหมือนกัน!
ไม่มีปัญหาครับ เพียงแค่ย้ายออกไปนอกรั้วเท่านั้น ที่ใหม่นี้ยิ่งดีกว่าเพราะมีเพื่อน ผมเห็นหญิง ๒ คนและเด็กชาย ๑ คนนั่งรออยู่ก่อนแล้ว ดูหน้าตากระเดียดไปทางคนจีน ผมคิดว่าทั้งสามคงกำลังจะไป Lashio เมืองสวยอีกแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้พรมแดนจีน หญิงคนที่มีอายุหันมาถามผมด้วยภาษาพม่า ผมต้องตอบเป็นภาษาอังกฤษว่า "เป็นคนไทย ไม่เข้าใจจริง ๆ" การสนทนาจึงยุติเพียงแค่นั้น
๑๑.๑๐ น. คุณแม่ดึงกระดาษหนังสือพิมพ์ออกปูบนพื้น แล้วให้ลูกชายนอน ส่วนผมยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้เหมือนเดิม ฆ่าเวลาให้หมดไปด้วยการนำไปรษณียบัตรออกมาเขียน
๐๑.๓๐ น. ผมจดบันทึกว่า "ยุงเยอะ - ร้อน (ตอนนี้แหละที่ต้องจดจำไปอีกนาน) เขียนไปรษณียบัตรเสร็จแล้ว ๘ ฉบับ - เก็บเอาไว้ในเป้ - นำแป้งเย็นออกมาโรยบริเวณพุงและเอว ใช้ผ้าเย็นเช็ดหน้า..."
ผมหลับนกได้นิด ๆ หน่อย ๆ จนถึงตี ๓ จึงได้ใช้ผ้าเย็นชุบน้ำเช็ดหน้าเช็ดตาให้สดชื่น ก่อนที่จะเก็บของลงเป้ แล้วเดินขึ้นบันไดไปหาซื้อตั๋ว...
วุ่นวายพอสมควรสำหรับการซื้อตั๋วรถไฟตอนตีสามกว่า ๆ ผมต้องยืนเฝ้าอยู่หน้าข่องจำหน่ายตั๋ว รอให้เจ้าหน้าที่ตื่นขึ้นมาทำงาน มีคนโผล่ออกมาให้เห็นแล้ว แต่ก็ยังไม่มาขายตั๋วให้ รถออกตี ๔ เวลากระชั้นเข้าไปทุกที ผมยังซื้อตั๋วไม่ได้ ขบวนรถจอดอยู่ตรงไหนก็ไม่รู้ ความตื่นเต้นทำให้เลือดลมวิ่งพล่าน!!
ในที่สุดเจ้าหน้าที่คนหนึ่งก็มาที่ช่องจำหน่ายตั๋ว เห็นไว้หนวดขาว ดูแล้วอายุคงประมาณ ๕๐ up ผมยื่นหนังสือเดินทางให้ พร้อมกับแจ้งความประสงค์ว่าจะไปพินอูลวิน ปรากฏว่าค่าโดยสาร upper class จากมัณฑะเลย์ไปลงที่พินอูลวินแค่ ๑,๒๐๐ จ๊าดเท่านั้น!!! โห...ทำไมถึงได้ถูกเช่นนี้? ผมส่งเงินให้ ๑,๕๐๐ จ๊าด คนขายตั๋วค่อย ๆ ประดิษฐ์ประดอยนับธนบัตรเก่าทอนให้ ๓๐๐ จ๊าด ตอนส่งเงินทอนให้ เค้าดึงมือผมเข้าไปจูบ....อั้ยย่า!
ได้ตั๋วมาแล้วครับ...
ถือตั๋วโดยสารไว้แน่น...ผมเดินลงไปยังชานชาลาเบื้องล่าง มองหาขบวนรถ 131 ที่จะพาไปพินอูลวิน หาไม่ยากเพราะมีรถไฟขบวนเดียวที่จะออกตอนตี ๔ คนที่ยืนอยู่ตรงบันไดตู้หมายเลข 1 ชี้ให้พนักงานรถไฟตัวจริงพาผมไปยังที่นั่ง C3 ได้โดยไม่ยาก...
รถไฟขบวนนี้แหละที่จะพาผมไปยังเส้นทางเดินรถที่สวยติดอันดับ ๑ใน ๑๐ ของโลก!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น