ผมวางแผนที่จะพักอยู่ในกะตะ ๓ คืน แล้วค่อยนั่งเรือล่องไปมัณฑะเลย์ แต่เอาเข้าจริง...อยู่กะตะได้เพียงคืนเดียว ผมก็ต้องเดินทางจากมา เพราะช่วงสงกรานต์ (วันที่ ๑๓-๑๗) จะไม่มีบริการเดินรถและเดินเรือจากกะตะไปมัณฑะเลย์ Schedule ที่ผมเขียนไว้จึงต้องปรับเปลี่ยน!
ไปตายเอาดาบหน้า คิดว่าเมื่อเดินทางถึงมัณฑะเลย์คืนวันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๕๗ ผมจะเข้าพักที่ Royal Guest House ก่อนเพื่อตั้งหลัก ส่วนวันที่ ๑๓ -๑๔ จะไปไหนก็ค่อยว่ากัน มันเป็นเรื่องของการ improvise เส้นทาง ซึ่งไม่ค่อยแตกต่างกับการบรรเลงเพลงแจ๊สเท่าใดนัก!
ในสมุดบันทึกผมเขียนไว้ว่า...
เรือถึงมัณฑะเลย์ประมาณ ๔ ทุ่ม ยกมือไหว้ลาจาก U Ko Oo แล้วเดินเลาะตามกราบเรือผ่านเรืออีกลำขึ้นสู่ฝั่ง หนุ่มพม่าคนหนึ่งมาดึงตัวให้ไปขึ้นมอเตอร์ไซค์ พูดภาษาอังกฤษก็ไม่รู้เรื่อง - บอกว่าจะไป Royal Guest House ต้องไปแวะถามคนอื่น ค่าโดยสารจากท่าเรือไปเกสต์เฮ้าส์เรียก ๓,๐๐๐ จ๊าด - จ่ายให้ไปแค่ ๒,๐๐๐ จ๊าด
ปรากฏว่าโรงแรมเต็ม ไม่มีห้องว่างให้พัก(ตั้งหลัก) พนักงาน Royal Guest House แนะนำให้ไปที่โรงแรมซึ่งอยู่ไม่ไกล แต่ผมไม่ไป
มีวิธีแก้ไขปัญหาซึ่งคิดได้ทันที หลังจากรู้ว่าคืนนี้ไม่มีที่ให้ซุกหัวนอน! ผมบอกตัวเองว่าไม่เห็นยากเลย มีรถไฟไปพินอูลวิน (Pyin Oo Lwin) ออกตอนตี ๔ เหลือเวลาอีกไม่ถึง ๖ ชั่วโมงเอง ทำไมจะต้องเช่าโรงแรมนอนด้วยหละ? แค่ทนรออยู่ที่สถานีรถไฟแล้วตอนเช้ามืดได้นั่งรถไฟไป "พินอูลวิน" (เมืองตากอากาศของเจ้าอาณานิคมอังกฤษในอดีต) ซึ่งผมได้ศึกษามาก่อนแล้วว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวที่งดงามและอากาศดี ถ้าไปเที่ยวที่นั่นสัก ๒ วันแล้วค่อยนั่งรถกลับมัณฑะเลย์ในวันที่ ๑๕ ก็จะเข้าล็อคพอดี!
ไม่ต้องพักโรงแรมทำให้ประหยัดเงินไปได้ $10 และเมื่อได้ไปรออยู่ที่สถานีรถไฟแล้ว ผมก็ไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องจะต้องตื่นเช้า!
รู้สึกพอใจในแผนเดินทางใหม่... ผมก้าวเดินจาก Royal Guest House ไปยังสถานีรถไฟด้วยความคุ้นเคย!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น