การเดินทางสไตล์ลุงน้ำชาต้องใช้ความอดทนค่อนข้างสูง บางครั้งต้องเดินระยะทางไกล หรือปั่นจักรยานฝ่าเปลวแดดร้อนเปรี้ยง ต้องพักโรงแรมที่มีแมลงสาบวิ่งออกมาทักทาย กินอาหารราคาถูก นั่งรถหรือลงเรือแบบที่ชาวบ้านส่วนใหญ่เค้าทำกัน และที่มักจะหลีกเลี่ยงไม่ได้คือ "การรอคอยที่ยาวนาน"! วันที่ ๖ เมษายน ๒๕๕๗ ผมต้องนั่งเรือช้า ๑๔ ชั่วโมงจากมัณฑะเลย์ไปยังพะโคะคุ
รอรถ...บางครั้งผมต้องใช้เวลานานถึงครึ่งค่อนวัน อย่างเช่นตอนรอรถจากหลวงน้ำทาไปเวียงภูคา แต่ผมก็รอได้ ไม่รู้สึกร้อนรนแต่ประการใด! นั่งเรือช้าลำนี้ก็เช่นกัน ต้องใช้เวลาสิบกว่าชั่วโมงกว่าจะถึงจุดหมาย คนแก่บางคนนอนหลับ เด็กน้อยหลับคาอกแม่ ฝรั่งนักปั่นจักรยานรอบโลกถึงกับเอาผ้ามาคลุมกายนอนหลับ หุหุ เค้าคงจะเห็นโลกมามากเกินความต้องการแล้วล่ะ!
สำหรับผม แต่ละนาทีมีค่ายิ่ง ทุกสถานที่ ๆ ผ่านไปล้วนมีความน่าสนใจ หากไม่อ่อนเพลียจริง ๆ ผมจะไม่หลับใหล! เรือวิ่ง ๆ ไป...เดี๋ยวก็มีเจดีย์สีทองโผล่มาให้เห็น! เมืองอะไรกันเนี่ย...ถึงได้มีวัดวาอารามมากกว่าร้านเหล้าและคาราโอเกะ!
ภาพชีวิตจากทั้งบนเรือและชายฝั่งบอกอะไรหลาย ๆ อย่างให้คนคิดเป็นได้คำตอบและบทเรียนซึ่งบางครั้งหาได้ยากในสังคมที่เจริญแล้ว...
เรือเปิดหวูดเสียงยาวเมื่อกำลังเข้าจอด ชายฉกรรจ์รูปร่างบึกบึนจะคอยช่วยกันประกอบสะพานเชื่อมให้ผู้หญิงและเด็ก ๆ...
แม่ค้าและผู้โดยสารยืนรออย่างใจเย็น เฝ้าดูไม้กระดานแผ่นใหญ่ถูกลากออกจากเรือ...ทำเป็นสะพานให้เดินข้าม
ต้องแข็งแรง อดทน และมีน้ำใจ...
ไม่แก่งแย่ง ร้อนรน หรือเอาเปรียบ...
เพื่อน ๆ ที่รักครับ ผมคิดว่าภาพเหล่านี้สื่อความหมายได้ดี ถ้าเราดูแล้วคิดตาม...
ในขณะที่นักท่องเที่ยวผู้มากับเรือเร็วคงไม่มีโอกาสได้สัมผัสภาพชีวิตได้มากเท่ากับที่ผมเห็น...
เข็มสั้นของนาฬิกาหมุนครบ ๑ รอบแล้ว พระอาทิตย์กำลังจะตกน้ำป๋อมแป๋ม... ผมพยายามหาคนพม่าที่พูดภาษาอังกฤษได้เพื่อถามถึงพะโคะคุ มีอยู่คนนึงบอกว่ากว่าจะถึงก็คงประมาณ ๒ ทุ่ม!!
เมื่อ ๓๑ ปีที่แล้ว เรือจะจอดที่ท่าพะโคะคุแล้วปล่อยให้ผู้โดยสารที่เป็นนักท่องเที่ยวพักค้างที่ Mya Yatanar Inn ๑ คืน เช้ามืดวันรุ่งขึ้นจึงค่อยเดินทางต่อ แต่ปัจจุบันนี้เรือเดินทางรวดเดียวไปถึงพุกามเลย
คืนนี้คงมีผมคนเดียวเท่านั้นที่จะลงที่พะโคะคุ! เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นไม่น้อย เมื่อความมืดค่อย ๆ คืบคลานมา!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น