หาที่พักในเมืองลอง… ผมเดินแบกเป้จากสี่แยก (1) ไปตามถนนที่จะไปเชียงกก สายตาสอดส่ายหาป้ายเฮือนพัก!!
ผ่านร้านอาหาร (2) เห็นชาย ๓ คนจากเมืองหล้าที่นั่งรถมาด้วยกันนั่งอยู่ข้างใน ได้เวลาอาหารกลางวันแล้ว เค้ากวักมือเรียกให้เข้าไปร่วมวง ผมบอกขอบใจ ชี้มือไปข้างหน้า…ขอตัวเดินต่อ! จนถึงทางแยกข้างหน้า ไม่มีวี่แววของเฮือนพัก ผมเดินย้อนกลับ ผ่านสามหนุ่มสามมุมในร้านอาหารอีกครั้ง กวักมือเรียกอีก! คราวนี้ผมเดินเข้าไปหา ชายคนสวมหมวกกุลีกุจอยกเก้าอี้ให้นั่ง…พร้อมกับรินน้ำชาให้ดื่ม
ผมวางเป้ไว้ข้างตัว นำสมุดบันทึกออกมาจด….
นอกจากจดบันทึก…ผมยังถ่ายภาพอาหารไว้ด้วย หนุ่มจีนด้านขวาเห็นแล้วยิ้มด้วยความพอใจ…
เจ้าภาพตักข้าวสวยใส่ถ้วย…แล้วเรียกให้กิน
ไข่น้ำชามใหญ่มั่ก ๆ ไม่มีเนื้อสัตว์ อย่างเนี้ยผมกินได้…
อีกจานเป็นผัดเต้าหู้ใส่มะเขือเทศ อร่อยซะด้วย!
แต่จานนี้มีหมู ผมกินไม่ได้…
คนเมืองหล้ารินเหล้าให้คนไทยดื่มด้วย…
ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ผมทำท่าเหมือนในหนังจีน (คารวะ ๑ จอก) ยกแก้วขึ้นดื่ม หน้าเบ้เพราะความฉุนของน้ำเมรัย รู้สึกร้อนผ่าวไปถึงกระเพาะ ต้องรีบยกน้ำชาขึ้นดื่มตาม!!
เห็นผมหม่ำข้าวหมดไป ๑ ชาม…บุรุษจากเมืองหล้าตักข้าวเติมให้อีก คะยั้นคะยอให้กินมาก ๆ เหล้าดื่มหมดแก้วก็ยังรินให้อีก จะไหวหรือเนี่ย? กินไปคุยไป ทำให้ทราบว่าคนสวมหมวกอายุน้อยกว่าผม ๑ รอบ เค้าเรียกผมว่าพี่ และเรียกตัวเองว่าน้อง บอกว่าถ้าพี่ไปเมืองหล้าก็ให้ไปแวะหาน้อง อีกสองคนพูดลาวไม่ได้ พูดจีนกับผมก็ไม่รู้เรื่อง จึงทำได้แค่นั่งฟัง…ยิ้มลูกเดียว ผ่านแก้วที่สอง… ผมเริ่มเมา!!! ต้องปฏิเสธที่จะดื่มต่อ รู้สึกว่าโลกเริ่มโคลงเคลง…ผมพยายามดื่มน้ำชาอุ่น ๆ ตาม
เมาแล้ว!! ผมเดินไปห้องน้ำ…
ทำให้นึกถึงวันที่ไปเมาเหล้าอยู่ที่สนามบินวอร์ซอร์ ประเทศโปแลนด์ ซึ่งได้บันทึกไว้ว่า…
19/6/85 …. เขาชวนให้ดื่ม Johnnie Walker และคุยกัน ในที่สุดก็พบว่าได้ทำผิดพลาดอย่างแรง เพราะดื่มเหล้าแบบเพียว ๆ และกินขนมปังทาเนย/แยม (นำมาจากลอนดอน) มันเข้าไปผสมกันในท้อง ทำให้รู้สึกเมาและคลื่นไส้ ต้องหลบไปนอนที่เก้าอี้ผู้โดยสารขาออก
นอนหลับไปนาน ตื่นขึ้นมาก็ค่ำแล้ว รู้สึกว่าร่างกายจะทนไม่ไหว ต้องเข้าไปอ้วกในห้องน้ำ..
แต่วันนี้ที่เมืองลอง ผมไม่ถึงกับต้องอาเจียน!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น