๑๐ โมงเช้า รถโดยสารที่ผมนั่งไปเมืองลองออกวิ่งจากสถานีขนส่งเมืองสิง ผ่านวัดน้ำแก้วหลวง มุ่งสู่จุดหมายซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ ๖๐ กิโลเมตร…
เป็นถนนราดยางได้ไม่นานก็เปลี่ยนสภาพเป็นถนนอย่างที่ฝรั่งเรียกว่า dirt road (บางจุดรถอาจต้องใช้คำว่า “คลาน”) แต่ก็ยังดีที่สองข้างทางไม่มีเหวลึกเหมือนเส้นทางจากเดียนเบียนฟูไปซาปา ผมยังอดสงสัยไม่ได้ว่าถ้าเป็นหน้าฝนจะลำบากขนาดไหน…
ผมบันทึกไว้ว่า…
….ผ่านเฮือนพักไทลื้อ สถานีตำรวจ วัดที่เคยไปเมื่อวานนี้ เห็นวัดสร้างใหม่อยู่ด้านขวามือ ถึงบ้าน Thong Mai รถจอดรับผู้โดยสารอีก ๒ คน เด็กอ้วก!!!
ข้างทางเป็นสวนกล้วยสุดลูกหูลูกตา กำลังออกลูกพร้อม ๆ กัน มีถุงดำห่อเครือไว้เป็นทิวแถว ลาวมีพื้นที่ว่างเปล่ามากมาย คนจีนมาเช่าปลูกกล้วยและยาง แล้วนำผลผลิตกลับไปแปรรูป ทรัพย์ในดินสินในน้ำก็ถูกบริษัทต่างชาติเข้ามาขุดเจาะแล้วนำออกไป…
หนทางลูกรัง มีหินขรุขระ รถวิ่งด้วยความยากลำบาก ถึงบ้าน Pho Kum มีคนลง ถนนราดยางแล้วแต่ไปอีกไม่ไกลก็กลับเป็นเช่นเดิมอีก ผ่านบ้าน “ศิวิไล”
ถึงเมืองลองเวลา ๑๑.๓๐ น.
รถเข้าจอดเฉย ๆ ทีแรกก็ยังไม่รู้ว่าถึงเมืองลอง คนจีน ๓ คนที่มาจากเมืองหล้าก็ไม่รู้เหมือนกัน จนมีคนบอก ดูแล้วแทบไม่รู้เลยว่าเป็นท่ารถ…
ลงจากรถแล้วถ่ายรูปไว้หน่อย…
จากนั้นก็เดินไปอ่านตารางเดินรถที่บ่อนขายปี้ ดูเหมือนว่าจะมีรถไปเชียงกกออกเวลาเที่ยง แต่ผมไม่เห็นรถไปเชียงกกจอดอยู่สักคัน ถามใครก็บอกว่าไม่มี ต้องเหมารถไปเอง…
ดูราคาเหมารถ ไปเชียงกก ๒๐๐,๐๐๐ กีบ (๘๐๐ บาท)…
“ฝ่าลมหนาวแอ่วลาวเหนือ” คงต้องถูก improvise อีกแล้ว ผมตระหนักดีว่าเส้นทางนี้น้อยคนที่จะเลือกเดิน เอาหละ! ขอเข้าเมืองไปหาที่พักก่อนละกัน ผมแบกเป้ออกจากท่ารถ เลี้ยวขวา แล้วก้าวเดินไปข้างหน้า…
“เมืองลอง” เป็น excursion จากเมืองสิง ทริปนี้ยังไง ๆ ก็ได้กำไรแล้วครับ!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น