ผมเห็นแผ่นดิน สปป. ลาว อยู่ฝั่งตรงกันข้าม ไม่ไกลเลย…แค่มีแม่น้ำโขงขวางกั้น บ่ายวันนี้คงจะได้ไปเหยียบ! หันกลับมาดูพระอุโบสถซึ่งยังคงปิดอยู่ คิดว่าวัดวาอารามของไทยจะเปิดกว้างให้ผู้คนเข้าออกได้ง่าย ๆ เหมือนวัดในหลวงพระบางซึ่งผมไปเห็นเมื่อเดือนเมษายนคงจะไม่มีแล้ว!
เครื่องใช้ไฟฟ้าและจักรยานยนต์เป็นสิ่งแปลกปลอมที่เหมือนตัวโน้ต Dissonance ในบทเพลงคุ้นหู…
เจ้า Nikon D50 ทำหน้าที่ของมันอย่างไม่งอแง…
ได้เรียนรู้ธรรมะจากอาขยานล้านนา “สังขารธรรม”
๑๐ ปี อาบน้ำบ่หนาว
๒๐ ปี แอ่วสาวบ่ก่าย
๓๐ ปี บ่หน่ายสงสาร
๔๐ ปี เยี่ยะการเหมือนฟ้าผ่า
๕๐ ปี สาวน้อยด่าบ่เจ็บใจ๋
๖๐ ปี ไอเหมือนฟานโขก
๗๐ ปี มะโหกเต็มตัว
๘๐ ปี ใคร่หัวเหมือนไห้
๙๐ ปี ไข้ก็ต๋าย บ่ไข้ก่ต๋าย
ตามวัย…สายตาผมไปหยุดอยู่ที่
“๖๐ ปี ไอเหมือนฟานโขก” อะไรกันนะ..“ฟานโขก”? (ฟานโขก
แปลว่าไอแห้งหรือลักษณะคล้ายคนเป็นโรคปอด – ที่มา
http://www.sahavicha.com) ครับ …ผมไออย่างนั้นจริง ๆ ด้วย!
ออกจากวัดหลวง…ผมถ่ายภาพป้ายไว้ ๑ บาน ก่อนที่จะเดินกลับที่พัก
ขอให้ผมได้แบกเป้ไปเที่ยวลาว และมีชีวิตอยู่เขียนบล็อกได้แค่มะโหกขึ้นตัวก็พอแล้ว!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น