วันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๕.... บ่าย ๓ โมงกว่า แม้จะโดนรองเท้ากัดจนเท้าระบม ผมก็ยังเดินกลับไปรอขึ้นรถได้!
ปัญหามีไว้แก้ครับ เพียงแค่สลัด “ความอาย” ทิ้งไป ถอดรองเท้าออก!
เหลือแต่ถุงเท้า…ผมก็เดินหิ้วรองเท้าไปตามเส้นทาง ๑.๕
กิโลเมตรได้อย่างง่ายดาย สามารถบันทึก“ภาพเก็บตก”
ตามสองข้างทางได้อีกเป็นช่่วง ๆ ดังต่อไปนี้…
เดินถึงจุดหมายยังไม่ถึง ๔ โมง ผมมีเวลานั่งพักบนขอบซีเมนต์ข้างถนน
ได้เห็นนักท่องเที่ยวสาวชาวยุโรปนั่งสูบบุหรี่พ่นควันปุ๋ย ๆ อยู่ใกล้ ๆ
แก้วกาแฟเย็นที่อยู่ในมือของเธอทำให้ผมรู้สึกกระหายน้ำขี้นมาตงิด ๆ!
ต้องเดินไปดูที่ร้านกาแฟสดข้าง ๆ โห… แก้วละหมื่นห้า ยังไม่กินก็ได้!
กลับมานั่งดูภาพผู้คนที่พากันเดินลงไปยังท่าเรือ มีคนไทยผ่านไปหลายกลุ่ม บ้างก็มีข้าวของมากมายจนต้องจ้างคนขน บ้างก็ร้อนรน รีบโทรบอกให้รถโดยสารทางด้านเชียงของช่วยรอหน่อย! ทุกคนต้องแข่งกับเวลา…ก่อนด่านตรวจคนเข้าเมืองของลาวจะปิด!
กลับมานั่งดูภาพผู้คนที่พากันเดินลงไปยังท่าเรือ มีคนไทยผ่านไปหลายกลุ่ม บ้างก็มีข้าวของมากมายจนต้องจ้างคนขน บ้างก็ร้อนรน รีบโทรบอกให้รถโดยสารทางด้านเชียงของช่วยรอหน่อย! ทุกคนต้องแข่งกับเวลา…ก่อนด่านตรวจคนเข้าเมืองของลาวจะปิด!
๑๖.๐๐ น. ผมลุกขึ้นเดินไปบริษัททัวร์
พา”เจ้าแรด”จากมุมห้องมานั่งอยู่ด้วยกันที่ม้าหิน
รอเวลาที่รถจะรับไปสถานีขนส่ง ในตู้กระจกหน้าร้านมีหนังสือ “Cambodia”
ของ Lonely Planet (มือสอง) วางจำหน่ายอยู่ ผมสอบถามราคาแล้วได้คำตอบว่า
“๓๐๐” บาท
นั่งรออยู่นานทีเดียวกว่าจะถูกเรียกให้ไปขึ้นรถ เป็นรถสองแถวอย่างบ้านเรา ด้วยความเป็นห่วง net book ซึ่งอยู่ข้างใน…ผมหิ้วเป้ขึ้นรถด้วย ในขณะที่สัมภาระส่วนใหญ่ของผู้โดยสารถูกเหวี่ยงขึ้นไปไว้บนหลังคา! นั่งอยู่แถวตรงข้ามเป็นสาวยุโรปวัยประมาณ ๓๐++ และหนุ่มสาวชาวจีน ๑ คู่ แต่รถก็ยังไม่ขยับ เพราะต้องรอผู้โดยสารผู้ไม่รู้จักเวล่ำเวลาอีก ๒ คน แม่ญิงผู้ทำหน้าที่ส่งผู้โดยสารไปท่ารถต้องเที่ยวตามหาให้วุ่น สักพักใหญ่…สองนักเดินทางก็มาถึง แต่แทนที่จะขึ้นรถ…นางหนึ่งกลับถามหาร้านขายโทรศัพท์แล้วเดินไปซื้อ sim ปล่อยให้เพื่อนอีกคนยืนรอโดยมีเป้ขนาดใหญ่บนหลัง ดูเธอตัวใหญ่และแข็งแรงมาก ผมแอบคิดในใจว่าเธออาจเป็นพวกสวิงกิ้ง เอ้ย..ไวกิ้งก็ได้!
นั่งรออยู่นานทีเดียวกว่าจะถูกเรียกให้ไปขึ้นรถ เป็นรถสองแถวอย่างบ้านเรา ด้วยความเป็นห่วง net book ซึ่งอยู่ข้างใน…ผมหิ้วเป้ขึ้นรถด้วย ในขณะที่สัมภาระส่วนใหญ่ของผู้โดยสารถูกเหวี่ยงขึ้นไปไว้บนหลังคา! นั่งอยู่แถวตรงข้ามเป็นสาวยุโรปวัยประมาณ ๓๐++ และหนุ่มสาวชาวจีน ๑ คู่ แต่รถก็ยังไม่ขยับ เพราะต้องรอผู้โดยสารผู้ไม่รู้จักเวล่ำเวลาอีก ๒ คน แม่ญิงผู้ทำหน้าที่ส่งผู้โดยสารไปท่ารถต้องเที่ยวตามหาให้วุ่น สักพักใหญ่…สองนักเดินทางก็มาถึง แต่แทนที่จะขึ้นรถ…นางหนึ่งกลับถามหาร้านขายโทรศัพท์แล้วเดินไปซื้อ sim ปล่อยให้เพื่อนอีกคนยืนรอโดยมีเป้ขนาดใหญ่บนหลัง ดูเธอตัวใหญ่และแข็งแรงมาก ผมแอบคิดในใจว่าเธออาจเป็นพวกสวิงกิ้ง เอ้ย..ไวกิ้งก็ได้!
เมื่อผู้โดยสารมาครบ…รถก็ออกวิ่ง ผมเห็นสาวผู้ขายปี้(ตั๋ว)เดินกลับเข้าบริษัทด้วยความโล่งใจ เสร็จสิ้นหน้าที่ของเธอแล้ว!
จำได้ว่าตอนเดินทางกลับจากหลวงพระบางถึงห้วยทรายเมื่อเดือนเมษายน ผมต้องไปลงรถที่สถานีขนส่งเก่า แต่มาวันนี้ผมได้มาขึ้นรถที่สถานีขนส่งแห่งใหม่ ซึ่งกว้างมั่ก ๆ!
ถ่ายรูปมาให้เพื่อน ๆ ดูหน่อย นั่นคือห้องขายปี้…
นี่คือชานชาลาและที่พักผู้โดยสาร…
พอไปถึงก็มีคนนำปี้มาให้ แลกกับใบรับที่บริษัททัวร์ออกให้
ที่นี่ไม่มีการติด tag สัมภาระ
ไม่มีพนักงานสาวยืนต้อนรับแล้วนำไปยังที่นั่ง ผมต้องหาที่นั่งเอาเอง
หิ้วเป้ขึ้นรถ เอาไปวางไว้ใกล้ตัว…ตรงช่องทางเดิน!
๕ โมงกว่า…พนักงานสาวตรวจเช็คเรียบร้อยแล้ว รถก็ยังไม่ออก! มารู้ทีหลังว่าเค้าต้องรอนักท่องเที่ยวฝรั่งอีก ๒-๓ คน ผมเห็นพนักงานเดินรถก้าวเหยียบกระสอบบริเวณประตูขึ้นมาบนรถ
ผลักเป้ของผมไปข้างหน้าแล้ววางด้วยเก้าอี้พลาสติกแบบมีขายที่บิ๊กซีตัวละ ๙๙
บาทไว้ ๒ ตัว ก่อนที่จะเรียกฝรั่งหนุ่มสาวคู่หนึ่งขึ้นมานั่ง
นับว่าเป็นเก้าอี้เสริมที่พิเศษจริง ๆ สำหรับผู้โดยสารวีไอพี!! 555
ประมาณ ๕ โมงครึ่ง…รถก็เคลื่อนตัวออกจากสถานีขนส่งห้วยทราย!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น