๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๕... ด้วยสองเท้าที่เริ่มระบม ผมเดินแบกเป้จากที่แลกเงินมาหยุดพักอยู่ตรงบันไดขึ้นวัดจอมเขามณีรัตน์ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับทางลงไปด่านตรวจคนเข้าเมืองบ้านห้วยทรายและท่าเรือข้ามไปเชียงของ ได้เวลาต้องคิดถึงแผนการเดินทางก้าวต่อไปแล้ว!
ตั้งโจทก์ไว้ก่อนว่า…ถ้าไปสถานีขนส่งตอนนี้ เพื่อนั่งรถโดยสารธรรมดาเที่ยวบ่ายไปหลวงน้ำทา (บนเส้นทางที่ผมเคยไปมาแล้ว) กว่าจะถึงปลายทางก็คง ๔-๕ โมงเย็น และจากสถาีนีขนส่งผมก็ต้องนั่งรถตุ๊ก ๆ เข้าไปหาที่พักในเมือง พักอยู่หลวงน้ำทาอย่างน้อยก็ต้อง ๒ คืน ก่อนที่จะเดินทางไปยังเมืองสิง ซึ่งอาจจะอยู่อีกซัก ๒ วัน ถึงตอนนั้นแล้วผมจะไปไหนต่อ? ไปสิบสองปันนาก็ยังไม่พร้อม คงต้องนั่งรถกลับ (ถ้าไม่หลงไปนอนสูบฝิ่นอยู่จนไม่อยากไปไหนต่อ อิอิ) จากหลวงน้ำทาแล้วจะไปไหนต่อล่ะ? ไปซาปาเหรอ?…เส้นทางเก่า ไม่น่าสนแล้ว! ไปหลวงพระบางดีมั้ย? ดีเหมือนกัน เพราะจากหลวงพระบางสามารถนั่งรถโดยสารไปฮานอยได้ ถ้างั้นทำไมไม่ลงไปหลวงพระบางเลยหละ เรื่องไปเที่ยวเมืองสิงอย่างที่ตั้งใจไว้ขอเก็บไว้ก่อน เอาไว้ทริปหน้าผมอาจได้ไปสิบสองปันนา ถึงตอนนั้นคงได้แวะเยือน
หากเย็นนี้ผมนั่งรถไปหลวงพระบาง ก็จะเป็นการประหยัดค่าที่พักไปได้ ๑ คืน (“นอนบนรถ” เป็นเทคนิคหนึ่งของนักเดินทางขี้เหนียว) และที่ผมชอบมาก ๆ ก็คือการไปถึงจุดหมายในตอนเช้า ทำให้มีเวลาเหลือเฟือที่จะเดินหาที่พักแล้วได้อยู่อาศัยอย่างคุ้มค่า โอเค…งั้นเย็นนี้ผมต้องตีรถไปหลวงพระบาง! ก่อนอื่นก็ต้องหาซื้อตั๋วรถ “ห้วยทราย-หลวงพระบาง” ให้ได้เสียก่อน จากนั้นจะได้มีเวลาอีกหลายชั่วโมงสำหรับการเดินเที่ยวบ้านห้วยทราย
(ขอบคุณแผนที่จาก Manager Online) |
อาคารตรงหัวมุม นอกจากจะเป็นที่พักแล้ว ข้างล่างยังมีบริษัททัวร์อยู่ด้วย ผมตัดสินใจเดินข้ามถนนไปดู พนักงานสาวสวยเห็นผมก็ทักทายทันทีว่า “สบายดี” เว้าลาวมา…ผมก็เว้าลาวไป สอบถามเกี่ยวกับเรื่องรถที่จะไปหลวงพระบาง สาวเจ้าบอกว่ามีรถ VIP ไปหลวงพระบาง (ผมเคยเห็นรถ VIP ของลาวมาก่อนแล้ว มันพอ ๆ กับรถ ปอ.2 บ้านเราเอง สู้เมล์เขียวที่ผมนั่งมาจาำกเชียงใหม่ก็ยังไม่ได้) ออกเวลา ๕ โมงเย็น ค่าโดยสาร ๑๖๐,๐๐๐ กีบ รวมค่าตุ๊ก ๆ ไปส่งที่สถานีขนส่ง (ใหม่) สมองผมทำหน้าที่แทนเครื่องคิดเลขทันที… ค่ารถไปหลวงพระบางเท่ากับ ๖๐๐ บาท (หัก ๔๐ บาทสำหรับค่าเดินทางไปสถานีขนส่ง) ก็ใช้ได้นะ! (เอ้า…ผมหักออกให้อีก ๒๐๐ บาท เป็นค่าเฮือนพักในห้วยทรายที่ประหยัดไว้ได้ อะไรจะขนาดนั้น? ฮา) ผมตัดสินใจซื้อตั๋วทันที เมื่อรู้ว่าสามารถฝากเป้ไว้แล้วไปเดินเที่ยวได้ ซ๊อตนี้กินดำแล้วยังวางสนุ๊กได้อีก!
ผมจ่ายเงินไปแสนกว่า ผู้สาวโทรจองที่นั่งแล้วออกใบรับให้ กำชับให้กลับมาตอน ๔ โมงเย็น เพื่อขึ้นรถไปสถานีขนส่ง ผมนำเป้ไปวางหลบไว้ตรงมุมห้อง พร้อมที่จะออกลุย! จุดหมายแรก คือ “วัดจอมเขามณีรัตน์” ซึ่งอยู่เบื้องหน้า…
เพื่อน ๆ ขึ้นบันไดไปด้วยกันนะ! ไหวมั้ย?
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น