ผมเห็นด้วยว่าความงดงามบนความเรียบง่ายนั้นสามารถหาดูได้ที่เมืองลาว ไม่เชื่อเพื่อน ๆ ลองดูภาพที่ผมนำมาให้ดูก็ได้…
ผมหยุดดู simple beauty ที่ร้านตัดเย็บเสื้อผ้า กดขัตเตอร์เก็บภาพไว้ ๑ บานก่อนก้าวเดินต่อไป…
“หยุด…ยกมือขึ้น” ช่วยด้วย!! ผมโดนปล้นกลางแดดซะแล้ว!!
เด็กน้อยน่ารักอีกคนนึงส่งเสียงเรียกผมว่า “ฝรั่ง ๆๆๆ” ในขณะที่ผมหยุดยืนบันทึกภาพของเธอ อยากบอกว่ารองเท้าของหนูใหญ่ดีจัง ขอยืมใส่ได้มั้ย ตอนนี้ตาโดนรองเท้ากัดจนเดินแทบไม่ไหวอยู่แล้ว อิอิ
ทางฝั่งตรงข้าม…ผมเห็น “สภาการค้าและอุตสาหกรรมแขวงบ่อแก้ว (Bokeo Chamber of Commerce and Industry)” อยู่ชั้นบน ชั้นล่างเป็นร้านขายเสื้อผ้า
เด็กนักเรียนกำลังเดินกลับบ้าน วันนี้เป็นวันอังคาร แค่บ่ายสองโมง…เด็ก ๆ ก็ได้กลับบ้านกันแล้ว (ต่างกับเด็กไทยในเมืองที่โรงเรียนเลิกแล้วยังต้องไปเรียนพิเศษต่ออีกจนมืดจนค่ำ ชีวิตหาความสุขที่เรียบง่ายแทบไม่ได้เลย)
ไม่ว่าไปที่ไหน โรงเรียนของเด็ก ๆ จะต้องเป็นจุดสนใจที่ดึงดูดให้ผมเข้าไปยืนชิดติดรั้ว ประหนึ่งว่ากำลังจะไปรอรับลูกหลานที่นั่น!
ผมแอบดูความงดงามน่ารักบนความเรียบง่ายของเด็ก ๆ ผ่านประตูรั้วโรงเรียน…
พอดีมีผู้ปกครองชาวอินเดียคนหนึ่งขี่จักรยานยนต์มารับลูก เลยได้คุยกันนิดหน่อยกับนักสอดแนมเมืองรถม้า…
จากโรงเรียนประถมศึกษาบ่อแก้ว ผมก้าวย่างต่อไป
ท้องชักจะเริ่มส่งเสียงอุทธรณ์ แต่นั่นไง! เจอแล้ว…อาหารกลางวันของผม
ข้าง ๆ
ทางเท้านั่นผมเห็นแม่ค้าขายกล้วยปิ้งกำลังเกลี่ยถ่านไฟที่อยู่ในปี๊ป!
รอดตายแย้ว! ผมควักเงินหมื่นซื้อทั้งกล้วยและเผือกอย่างละ ๕ พัน เผือกยังไม่สุกดี ต้องนั่งรออยู่ครู่ใหญ่ จากนั้นก็เดินมุ่งหน้าไปเรื่อย ๆ ตามถนนเลียบฝั่งโขง
เห็นที่ทำการไปรษณีย์แขวงบ่อแก้วอยู่ทางด้านซ้ายมือ
วันนี้ไม่มีไปรษณียบัตรส่งถึงเพื่อน ๆ ไม่ได้ส่งไปรษณียบัตรลงตู้รับจดหมาย แต่ทิ้งถุงกล้วยและเผือกปิ้งลงถังขยะที่เห็น…
เจ็บเท้าจนเกือบจะก้าวเดินไม่ไหวแล้วครับ!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น