แม้จะขี่จักรยานไปด้วยกันหลายคน แต่ถ้าโชคร้ายไปเจอคนเวียดผู้ไร้ความเมตตาและกำลังหิวโหย ในความมืดและปราศจากผู้คน คุณอาจต้องสูญเสียทรัพย์สมบัติที่นำติดตัวไป อาจถูกทำร้ายจนบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ขอเตือนครับว่าอย่าทำเลย ตอนกลางคืนขอให้พักผ่อนนอนหลับให้เต็มที่ แล้วค่อยเดินทางเมื่อสว่างแล้วจะดีกว่า แม้ตอนกลางวันก็อย่าได้วางใจ Jeremy เพื่อนนักปั่นชาวเกาหลีคุยให้ฟังว่าทางตอนเหนือของเวียดนามแค่หยุดพักข้างทางแล้วเผลองีบไป ตื่นขึ้นมาโทรศัพท์มือถือก็อันตรธานไปแล้ว
เช้าตรู่วันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ ผมก็เดินทางในความมืดเช่นกัน แต่เป็นการปั่นในตัวเมืองวารินชำราบซึ่งคิดว่าปลอดภัย ตีสี่กว่า ๆ ผมเห็นผู้คนเริ่มตื่นขึ้นมาเปิดร้านกันบ้างแล้ว...
ทีแรกตั้งใจว่าในช่วงเช้าจะปั่นจักรยานเที่ยวในตัวเมืองวารินชำราบก่อน แล้วก่อนเที่ยงค่อยปั่นไปตัวเมืองอุบล พอมาถึงเข้าจริง ๆ ก็ไม่รู้ว่าจะไปไหนดีเพราะมันยังมืดอยู่...
ยังดีที่ได้แวะร้านสะดวกซื้อเพื่อเติมพลัง...
เจอตำรวจที่หน้าร้าน ตาแก่จากเมืองรถม้าถามถึงสะพานข้ามแม่น้ำมูลไปยังอำเภอเมือง ได้รับคำตอบแล้วปั่นจักรยานมุ่งหน้าออกไปตามถนนอันเงียบสงัด...
ได้ศึกษาเส้นทางจากอินเทอร์เน็ตมาก่อน ผมจึงไม่กังวลใจ แค่ปั่นไปเรื่อย ๆ ด้วยความระมัดระวังโดยอาศัยไฟฉายจากคุณบิมช่วยส่องสว่างหนทางข้างหน้า ไม่ช้าไม่นานก็ถึง "สะพานเสรีประชาธิปไตย"
หยุดกลางสะพานถ่ายรูปไว้หน่อย...
จองที่พักล่วงหน้าไว้ที่ราชบุตรโฮสเทล..ผมรู้ว่าอยู่ใกล้กับ "วัดหลวง" วัดที่ผมมองเห็นอยู่เบื้องหน้า!
ดึงภาพเข้ามาให้อยู่ใกล้
โอเค! ตี ๕ แล้ว ขอแวะไปดูหน่อย ผมปั่นจักรยานลงสะพาน (1) ไปอ้อมวงเวียนน้ำพุ (2) แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปยังตลาดริมน้ำ (3) อ้อมไปออกถนนราชบุตร... เลี้ยวซ้ายไปจอดริมรั้ววัดหลวง (4)
ถ่ายรูปเจ้า Banian ที่หน้าป้าย ไว้เป็นที่ระลึกของการมาถึงตั้งแต่เช้ามืด...
เดินไปถ่ายภาพ "สะพานเสรีประชาธิปไตย" จากฝั่งนี้ไว้อีก ๑ บาน
ลมเย็นพัดมากระทบกาย ผมสูดหายใจลึก มองดูขอบฟ้าเริ่มสาง!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น