แต่ก็ยังดีที่มีโอกาสได้มาเห็นในวันนี้...
พบกับอาคารรูปแบบผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมล้านนาและแบบตะวันตก...
ดูเหมือนจะซ่อนความน่าสงสัยไว้หลังป้ายไวนิลที่เขียนว่า "เขตสังฆาวาส ห้าม! บุคคลภายนอกเข้า-ออก ก่อนได้รับอนุญาตโดยเด็ดขาด" แลภายในอาคารที่มีประตูโค้งแบบวิหารในยุโรป ข้างในนั่นน่าจะเป็นที่อยู่ของสงฆ์ ผมไม่แน่ใจว่าจะเรียก "กุฏิ" ได้หรือเปล่า?
ถึงบางอ้อก็ต่อเมื่อได้เห็นจารึกที่หน้าบันว่า "กุฏิ ๑๐๐ ปีโยนการพิจิตร"
ค้นคว้าในอินเทอร์เน็ตแล้วได้ความว่าสร้างขึ้นในสมัยพระครูบาโสภา (เถิ้ม) และรองอำมาตย์เอกหลวงโยนการพิจิตรเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๓๙
พระวิหารหอคำก็มีอายุร้อยกว่าปี...
มีหอไตรตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตก ใกล้กับพระเจดีย์ หลังเก่าอายุกว่าร้อยปี...
อีกหลังนึงอายุไม่มาก...แค่ ๗๐ ปีเอง!
ต้องไปต่อ...ผมใช้เส้นทางเดิมขี่จักรยานออกไปยังถนนท่าแพ
ตรงข้ามกับวัดแสนฝาง (5) คือ "วัดบุพพาราม" (6)
วัดบุพพารามอ้างว่ามีพระพุทธรูปไม้สักที่ใหญ่และสวยงามที่สุดในโลก! ต.ม.! เพื่อน ๆ ตามมา...เราจะไปพิสูจน์ด้วยกัน!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น