ตลอดเส้นทาง Travellin’ light ไปพม่าของผม
ถ้าไม่นับช่วงขึันเครื่องจากดอนเมืองไปมัณฑะเลย์
และตั้งแต่ตอนนั่งรถเมล์ฟรีของ AirAsia ไปสนามบินเพื่อกลับเมืองไทย
ผมมีโอกาสได้พบนักท่องเที่ยวคนไทยเพียง ๒ คนเท่านั้น
เป็นหญิง ๒ คนที่เดินทางไปเที่ยวพุกามด้วยกัน
การท่องโลกของลุงน้ำชาเป็นรูปแบบที่คนไทยร้อยละ ๙๙ ไม่ทำกัน
แม้แต่ฝรั่งนักเดินทางก็ยังส่ายหัว ผมกลายเป็น “คนแปลก” หรืออาจเรียกว่า “ไอ้บ้า” ที่ทำอะไรไม่เหมือนคนไทยส่วนใหญ่…
ไปพม่าคราวนี้ ใครเห็นก็คิดว่าผมเป็นคนญี่ปุ่น (มีอยู่คนเดียวที่คิดว่าผมเป็นคนจีน) ไม่มีใครคิดว่าผมเป็นคนไทย ผมได้คุยกับคนพม่าไม่ต่ำกว่า ๓ คนที่วิจารณ์ว่าคนไทยพูดภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่อง มันทำให้ผมสงสัยในกระบวนการสอนภาษาบ้านเราว่าน่าจะมีอะไรที่ไม่ถูกต้อง ถึงทำให้ผู้ที่เรียนภาษาอังกฤษเป็นสิบ ๆ ปีไม่สามารถสื่อสารให้คนอื่นเข้าใจได้
คนไทยบางคนไม่กล้าเชิดหน้าเสวนากับบรรดาฝรั่งซึ่งมิได้วิเศษวิโสอะไร! น้อยนักทีผมจะเห็นคนไทยเดินทางคนเดียว อย่างน้อยก็ต้องมีเพื่อนคู่ใจ…หรือไปเป็นกลุ่ม!! Backpacker ไทยชอบพก Lonely Planet เล่มใหญ่ พร้อมเสบียงและอุปกรณ์เครื่องใช้ครบ ที่ขาดไม่ได้คือกล้องถ่ายรูปยี่ห้อดัง พร้อมเลนส์ยาว ๆ บางครั้งมีขาตั้งกล้องไปด้วย! เขียนเช่นนี้มิได้มีเจตนาว่าร้ายคนไทยด้วยกัน ผมเคารพเสมอในแนวทางที่ทุกคนเลือก เข้าใจในความรู้สึกของเพื่อนนักเดินทางต่างเพศ ต่างวัย และต่างประสบการณ์
ที่ Royal Guesthouse ผมไปอ่านเจอบันทึกของคนไทยคนหนึ่ง โดยไม่กล่าวนาม…ผมขออนุญาตนำมาถ่ายทอดดังนี้
ฉันได้มาเที่ยวกับแฟนสองคนในพม่า ตอนแรกฉันคิดว่าคนพม่าจะนิสัยดี เป็นประเทศที่น่ารักดี ผู้คนยิ้มแย้ม แต่พอมาเห็นกับตา ฉันมีความรู้สึกว่าประเทศนี้เป็นประเทศที่น่ากลัวมาก สำหรับฉันแล้ว ฉันว่าอย่างงั้นนะ ฉันทะเลาะกับแฟนทุกวันเลย เพราะว่าร้อนมาก ฉันคิดว่าจะเลิกกับแฟนก็ตอนนี้แล้วหละ เพราะว่าฉันต้องอยู่ที่นี่เกือบ 10 วัน ไปไหนไม่ได้ เพราะแฟนก็กลัว เพราะที่นี้เขามีงานสงกรานต์เหมือนบ้านเรา แต่ยาวมากหยุดได้เกือบ 10 วัน เราไม่สามารถออกไปไหนได้ วัน ๆ กินแต่ม่าม่า ดีนะยังมีม่าม่าบ้านเราขายตามห้างสินค้า มีครั้งหนึ่งเราไปซื้ออาหารของคนพม่ากินกัน แต่กินไม่ได้ มีแต่ข้าวมะพร้าวหรือข้าวแกงกะหรี่เหมือนอินเดีย กินไม่ได้เลย แต่มีอยู่ร้านอาหารหนึ่งอยู่ข้างโรงแรมชื่อ MANA สามารถทานได้ ทำกับข้าวอร่อยเหมือนบ้านเรา แต่แนะนำให้สั่งกลับทานที่โรงแรมดีกว่าทานที่ร้านอาหาร เพราะว่าคุณจะทานไม่ลง ขากทุ้ย มีทุกอย่างแต่ที่โรงแรม ok ทุกอย่าง จบ…
เพื่อน ๆ ที่รักครับ ชีวิตคนเราเกิดมาบนพื้นฐานที่ต่างกัน มีประสบการณ์ไม่เท่ากัน จึงทำให้มองโลกในมุมมองที่แตกต่างกัน สำหรับผมแล้ว ๑๔ วันในพม่ายังน้อยไปด้วยซ้ำ ยังมีอะไรดี ๆ ให้ได้สัมผัสอีกมากมาย! อาหารพม่าแม้จะไม่ถูกปาก แต่ผมก็มีความสุขที่ได้ร่วมวงกับคนพม่า…
ถวิลหาการกลับไปนั่ง slow boat จากมัณฑะเลย์ไป Pakokku มานานแล้ว การเยือนพม่าครั้งที่ผ่านมาผมก็ได้ทำในสิ่งที่ต้องการ แถมยังได้นั่งเรือจาก Katha กลับมัณฑะเลย์…
ผมได้นั่งรถไฟ (บอกกับฝรั่งว่ามันเป็น slow train) ไป Pyin Oo Lwin…
แต่ละเส้นทางเป็นการ improvise ให้เข้ากับสถานการณ์ในแต่ละย่างก้าว… อันนำมาซึ่งความตื่นเต้นเร้าใจจนยากที่จะบรรยาย! มันทำให้ผมได้เห็นภาพที่ไม่คิดว่าจะได้เห็น….
ก่อนจากโลกนี้ไป…ขอผมได้ฝากประสบการณ์แตกต่างนี้ไว้กับเพื่อน ๆ ด้วยก็แล้วกัน!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น