๓ เมษายน ๒๕๕๗ วันนี้ผมกำลังจะเดินทางไปพม่า ประมาณตี ๕ ดวงอาทิตย์ยังไม่โผล่ขึ้นมาสาดสองแสงทองไปยังผนังวิหารหลวงพ่อโต มีแต่ความมืดกับแสงจากหลอดไฟช่วยกันแต่งแต้มสีสันวันใหม่ให้กับบริเวณลานหน้าวัดป่าเลไลยก์
แม่ค้ากาแฟโบราณตั้งโต๊ะเรียบร้อยแล้ว ผมเป็นลูกค้าคนแรกที่มาประเดิมในเช้าวันนี้ ดื่มกาแฟไปก็นั่งคิดว่า…ก่อนบ่ายโมงวันนี้ ผมคงได้ไปยืนอยู่ในประเทศพม่า เวลาห่างกันแค่ครึ่งวัน…ผมสามารถย้ายก้นจากร้านกาแฟวัดป่าเลไลยก์ไปนั่งอยู่ในมัณฑะเลย์!
ข้าวแฝ่ร้อน ๑ แก้ว ปาท่องโก๋ ๓ ตัว กินเสร็จแล้ว…ผมควักเงินจ่าย ๑๓ บาทโดยไม่ถามว่าเท่าไหร่ จากนั้นก็ขยับเป้ให้กระชับแผ่นหลัง สวมหมวก แล้วก้าวเดินจากร้านกาแฟโบราณ ข้ามถนนไปยืนรอรถสองแถวอยู่ที่หน้าร้าน 7-11
รออยู่พักใหญ่ รถสองแถว (วัดป่า-ตลาด) ก็ผ่านมา ผมก้าวขึ้นโดยไม่ลังเล เพราะได้สำรวจเส้นทางจากหน้าวัดป่าเลไลยก์ไปลงที่สถานีขนส่งมาแล้วเป็นอย่างดี ผมรู้ด้วยว่าจะต้องไปขึ้นรถตู้ที่ชานชาลาที่ ๘
ที่นั่นมีรถตู้จอดรออยู่แล้ว ผมถามคนขับเพื่อความแน่ใจอีกครั้งว่าลงดอนเมืองได้ ลุงโชเฟอร์ไล่ให้รีบขึ้นรถ ก่อนที่จะตามมาเก็บตังค์ค่าโดยสาร ๑๑๐ บาท…
วิ่งออกจากสถานีขนส่งโดยผมมีนั่งอยู่คนเดียว แต่ระหว่างทางก็รับผู้โดยสารขึ้นมาเรื่อย ๆ รถวิ่งออกทางอยุธยา เข้ารังสิต แล้วไปส่งให้ผมลงที่หน้าสนามบินดอนเมือง…
ผมลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในท่าอากาศยาน เลี้ยวไปตามลูกศรที่บอก “ระหว่างประเทศ”
เดินไปไม่ไกลก็เจออาคารผู้โดยสารขาออก…
ต้องขึ้นไปชั้น ๓…
จากนั้นก็ไปที่ self check-in kiosk ของ AirAsia เพื่อทำการเช็คอินด้วยตนเอง
ได้ boarding pass สำหรับขึ้นเครื่องมาแล้ว…
ก่อนอื่นผมต้องไปขอ departure card จากเคาน์เต้อร์ AirAsia มากรอก…
หาที่ได้แล้ว กำลังจะลงมือกรอก ผมมองหาเจ้า boarding pass ไม่เจอ…. มันหล่นหายไปแล้ว!!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น