บางคนมองพม่าว่าไม่เจริญ บ้างก็ว่าเจ้าเล่ห์…
ผมเคารพในความเห็นของทุกคน คิดว่าไม่มีใครผิดเพราะแต่ละคนมีประสบการณ์ที่ต่างกันไป บางท่านอาจได้เห็นพม่าเพียงแค่ท่าขี้เหล็กหรือแม่สอด หรือได้อ่านเกี่ยวกับขบวนการนำยาบ้ามาซุกแล้วให้ตำรวจมาไถเงิน ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดตามชายแดนบ้านเรา สำหรับผมได้ไปเห็นพม่ามาสามครั้งสามครา (ครั้งแรกเมื่อ ๓๑ ปีที่แล้ว) ต้องยอมรับว่า “พม่า” เป็นประเทศที่น่าไปเยือนที่สุด แม้ว่าความเปลี่ยนแปลงกำลังแพร่ขยายเข้าไปอย่างไม่หยุดยั้งก็ตาม…
เดินทางในพม่า…ไปที่ไหนก็เห็นแต่วัดวาอาราม มองไปทางซ้ายก็เจดีย์ ทางขวาก็เจดีย์ บนเขาก็เจดีย์ ริมน้ำก็ยังมีเจดีย์ แม้แต่หมู่บ้านสร้างใหม่ในเมือง เค้ายังสร้างวัดและเจดีย์ขึ้นก่อนเพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจชาวบ้าน
ตอนเช้ามืด…ทุกวัดจะสวดมนต์ส่งกระจายเสียงได้ยินไปทั่ว ในขณะที่โทรทัศน์ก็มีรายการสวดมนต์ทำวัตรเช่นกัน
ทุกเช้าหน้าจอโทรทัศน์พม่าฉายรายการธรรมะ มีเสียงสวดมนต์พร้อมบทสวด(ตัวหนังสือพม่า) คล้ายกับเพลงคาราโอเกะบ้านเรา ทำให้ผู้คนได้รับการกล่อมเกลาจิตใจทุกวี่วัน แม้ท่าทางคนพม่าจะดูไม่เรียบร้อย แต่งกายไม่สะอาดสะอ้านดูเป็นผู้ดี แต่จริง ๆ แล้วเขากลับเป็นคนที่อ่อนโยน มีหิริโอตตัปปะ และพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ…
ไปที่ไหนตัวคนเดียว…ผมไม่เคยรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยเลย ไม่เคยเห็นแววตาประสงค์ร้ายจากคนพม่าแม้หน้าตาจะดูน่ากลัว! ผมไม่เคยโดนกลุ่มวัยรุ่นแซวหรือหาเรื่องแม้แต่ครั้งเดียว มีแต่รอยยิ้มที่มอบให้ ไม่ว่าจากเด็กหรือผู้ใหญ่ ชายหรือหญิง!
คนเก็บขยะ…แม้จะสื่อสารด้วยกันไม่รู้เรื่อง แต่เขาก็อยากพูดคุยกับผู้มาเยือน ดูท่าทางจะมีความสุขมากกว่าเศรษฐีพันล้านบ้านเราเสียอีก!!
ตี ๔ ตี ๕ คนพม่าก็ไปวัดกันแล้ว…
ถอดรองเท้าตั้งแต่ทางเข้า แม้เท้าจะเปื้อน แต่จิตใจใสสะอาด!
เด็ก ๆ ก็ได้เข้าวัด…
ได้รับการอบรมบ่มนิสัยจากวัด… มิใช่เอาแต่จ้องอยู่หน้าจอ Tablet!
เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ แม้จะไม่ร่ำรวย แต่ก็พอใจในชีวิตที่เรียบง่ายและพอเพียง
ถ้าเพื่อน ๆ ไม่เชื่อ… ขอให้คอยติดตามอ่านใน “Travellin’ light ไปพม่า” นะครับ!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น