รถเข้าจอดก่อนถึงจุด passport control (2) ซึ่งอยู่ทางด้านซ้ายมือ...
ในอาคารเล็ก ๆ สีขาวตรงหน้าต่างสี่เหลี่ยมที่เห็นนั่นแหละ ที่มีเจ้าหน้าที่ ตม. (คนพะเยา) นั่งปฏิบัติงานอยู่...
ขั้นตอนขาเข้าไทยก็ไม่ยากอีกเช่นกัน เจ้าหน้าที่ดึง arrival card ที่เย็บติดกับหนังสือเดินทางออกไป ถ่ายภาพผมเก็บไว้ด้วยกล้องเว็บแคม แล้วประทับตราอนุญาตให้กลับสู่มาตุภูมิ...
ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมใด ๆ ทั้งสิ้น ผมรับหนังสือเดินทางคืนมาแล้วเดินนำเอกสารกำกับจักรยานไปยื่นให้เจ้าหน้าที่อาคารศุลกากรซึ่งอยู่ถัดไป เจ้าหน้าที่ของรัฐรับไปแบบงง ๆ หญิงคนหนึ่งแจงว่าการเดินทางด้วยจักรยานถือว่าไปตัวเปล่า! จริง ๆ แล้วผมไม่ต้องนำเอกสารไปยื่นให้ก็ได้ แต่ก็อยากทำตามที่ทางภูดู่ประทับตราตัวแดงแจ้งไว้...
เรียบร้อยแล้วก็ถ่ายรูปหลักกิโลยักษ์ไว้หน่อย เห็นได้ว่าจากที่นี่ไปไซยะบูลี ๑๒๔ กิโลเมตร หลวงพระบาง ๒๒๘ กิโลเมตร จีน ๓๓๘ กิโลเมตร เวียดนาม ๓๙๗ กิโลเมตร!
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ปิคอัพทะเบียนตองเจ็ดของ อ.จัตุรัสก็พุ่งทะยานพาชาย ๓ คนซึ่งอายุรวมกันเกือบ ๒ ศตวรรษเดินทางต่อไปยังอำเภอทุ่งช้าง...
ผ่านสามแยกซึ่งผมพอจะจำได้ลาง ๆ
กลับถึงบ้านที่ห้างฉัตรเมื่อเวลา ๒๔.๔๙ น. สิ้นสุด "FB Trip ไปลาว" ด้วยความประทับใจ...
วันที่ ๑๒ เมษายน ผมแลกเงินกีบเตรียมไว้ใช้อีก ๕๐๐ บาท (ได้มา ๑๑๕,๐๐๐ กีบ) พอดีไม่ได้แวะหงสา เมื่อกลับถึงบ้านพบว่าในกระเป๋ามีเงินลาวเหลืออยู่ ๑๓๐,๐๐๐ กีบ...
จากที่เคยบอกไว้ว่าจะไม่ไปลาวอีก ต้องขอเปลี่ยนเป็นว่ายังจะมีอีก ๑ ทริปในอนาคตข้างหน้า ใช่กลัวไม่ได้ใช้เงินที่เหลือ แต่ยังมี "ลาวใต้" อีกโซนหนึ่งซึ่งยังไม่ได้ไป ผมอยากเห็น "ปราสาทหินวัดพู" มรดกโลกแห่งที่ ๒ ของลาว!
และทริปครั้งสุดท้ายไปลาว (จริง ๆ) ก็น่าจะเป็น FB Trip!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น