ชายที่นั่งอยู่หน้า Quaid-e-Azam`s Mausoleum ในภาพคือ Muhammad Yoseen ชาวปากีสถาน...
เมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๒๘ ผมบันทึกไว้ว่า...
....ไม่รู้ว่าถูกชะตากันยังไง Yoseen บอกว่า "You are my best friend." พอทราบว่าจะไป Quaid-e-Azam`s Mausoleum เขาก็อาสาพาเดินไปยัง bus terminal แล้วขึ้นรถสาย ๖ ไปด้วยกัน (ค่ารถก็ออกให้) พอถึงจุดหมายก็ลงจากรถเมล์ แล้วเดินเข้าไปภายในสวนกว้างใหญ่ มีอาคารหินอ่อนหลังคารูปโดมอยู่ตรงกลาง ขณะเดินเข้าไปรู้สึกว่าเป้หนักเหลือเกิน แข้งขาอ่อนล้า คอก็แห้ง แต่พอเข้าไปใกล้ ๆ ความงดงามของที่นั่นทำให้ความเหน็ดเหนื่อยคลายลง
Quaid-e-Azam`s Mausoleum คือที่ฝังศพของ Quaid-e-Azam Muhammad Ali Jinnah บิดาของปากีสถาน สร้างด้วยหินอ่อนสีขาวสูงตระหง่าน หลังคารูปโดมงดงามมองเห็นได้แต่ไกล รู้สึกตื่นตาตื่นใจที่มีโอกาสได้มาเห็น ต้องเดินระยะทางค่อนข้างไกล ขึ้นบันได ถอดรองเท้าฝากไว้กับคนรับฝาก เดินเท้าเปล่าผ่านลานหินอ่อนขึ้นไปจนถึงตัวอาคาร
บริเวณใจกลางซึ่งเป็นที่ฝังศพท่านผู้นำล้อมรอบด้วยรั้วลวดลายวิจิตร ด้านบนมีระย้าห้อยลงมาจากเพดานอย่างสวยงาม พื้นหินอ่อนถูกขัดจนเป็นเงาวับ รอบรั้วมีทหารแต่งตัวเต็มยศพร้อมปืนยาวยืนรักษาการณ์อยู่ทั้ง ๔ มุม ภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ (คาดว่าจะเป็นทุก ๆ ๕ นาที) ผู้คุมจะเป่านกหวีดให้ทหารสลับตำแหน่งโดยก้าวเท้า เรียบวุธ ชิดเท้าอย่างพร้อมเพรียง ด้านนอกก็มีทหารถือปืนรักษาการณ์อยู่ ทุกคนยืนนิ่งเหมือนหุ่น
Yoseen ลงไปข้างล่าง ใช้บริการของช่างภาพที่่ถ่ายรูปโดยใช้กล้องโพลารอยด์ ถ่ายแล้วรับภาพได้เลย (ใบละ 20 Rupees) สักพักก็ขึ้นมาชวนให้ลงไปถ่ายรูปด้วย ยกเป้ขึ้นหลังแล้วเดินตามเค้าไป แวะรับรองเท้าสวมใส่ก่อนตามลงไปที่บริเวณสนามหญ้า ช่างภาพจัดให้ยืนคู่กับ Yoseen แล้วกดชัตเตอร์ สักครู่ก็เอารูปออกมาให้ดู แม้ไม่ชัดเจนนัก แต่ก็ดีพอสมควร Yoseen ดีใจเมื่อได้รูปที่เราถ่ายด้วยกัน
หลังจากนั่งพักจนหายเหนื่อยก็เดินออกจากที่นั่น แวะไปกินน้ำแดงที่ล้อเข็นข้างทาง (Yoseen จ่ายอีกตามเคย) น้ำแดงรสชาติไม่ดีเลย มีกลิ่นเหมือนน้ำหอมแขก และดูท่าไม่ค่อยสะอาด เห็นพ่อค้าเอาน้ำแข็งใส่ถุงยางสีดำแล้วทุบ เทใส่แก้วแบบแก้วโอเลี้ยงแก้วละนิด ใส่น้ำแดงลงไป แล้วเติมด้วยน้ำประปาจนเต็ม นำแก้วเปล่าแบบเดียวกันมาครอบ เขย่า ๒-๓ ทีก็เป็นอันว่าใช้ได้!
พากันนั่งรถเมล์กลับไปที่ท่ารถ บอกเพื่อนชาวปากีสถานว่าขอนั่งรถเมล์ไปสนามบิน Yoseen ก็จะกลับไปที่ทำงาน...เขาอุตส่าห์พาไปส่งที่รถเมล์สาย D3 ซึ่งจอดรออยู่ เราจากกันด้วยความอาลัย ก็น่าแปลกสำหรับมิตรภาพที่เกิดจากการพบกันเพียงแค่ครึ่งวัน Yoseen ควักปากกาหมึกซึมของเขาออกมา บอกว่าเป็นปากกาทำในปากีสถาน ขอมอบให้เป็นที่ระลึก เราจับมืออย่างแน่นแฟ้น แล้วเขาก็เดินหายเข้าไปในฝูงชน...นั่นคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ ๓๐ ปีที่แล้ว เป็นภาพแห่งความทรงจำซึ่งถูกบันทึกไว้บนฟิล์มสไลด์ใบเล็ก ๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น