บนถนน 82 เดินต่ออีกไม่ไกลก็ได้เห็นอีกวัดหนึ่ง เป็นวัดขนาดใหญ่อยู่ริมถนนด้านเดียวกับวัดเล็กที่เพิ่งสำรวจมา ผมคิดในใจว่าวัดนี้ต้องทันสมัยแน่เลย (ถ้าเป็นบ้านเราก็คงเป็นวัดของเจ้าคณะจังหวัดหรืออะไรทำนองนั้น) สังเกตได้จากถาวรวัตถุสร้างใหม่ใช้สีสันบาดตาและป้ายภาษาอังกฤษห้ามสวมรองเท้าเข้าไป...
มีทางเดินปูกระเบื้องทอดยาวเข้าไปหลายสิบเมตร ความร้อนที่สะสมไว้บนพื้นทำให้ฝ่าเท้าไม่สามารถย่ำไปได้สบาย ๆ ผมต้องกระโดดเหย็ง ๆ เพื่อไปให้ถึงบริเวณที่เดินได้ตามปกติ...
นำภาพพระเจดีย์มาให้เพื่อน ๆ ดู...
บริเวณลานมีศาลาหลังเล็ก แขวนนาฬิกาดิจิตอลไว้ข้างหน้า นั่นไง...บอกแล้วว่าทันสมัย อิอิ
บอกอุณหภูมิด้วยว่า ๔๑ องศาเซลเซียส
สีสันที่ใช้ทำให้ร้อนแรงยิ่งขึ้น...
ฟ้าไร้เมฆา แสงแดดจ้าสาดส่องทุกอณูของพื้นที่โดยรอบ...
ข้างนอกร้อน แต่ภายในวิหารชาวพม่าผู้ใฝ่ในธรรมกลับนิ่งสงบและเยือกเย็น...
วัดนี้ทันสมัยด้วยประตูกระจกบานสวิง...
แอบเปิดประตูเข้าไปดูข้างใน ผมเห็นพระพุทธรูปงดงาม คิดว่าที่นี่น่าจะโบสถ์ติดแอร์!
เดินเลี่ยงออกทางด้านข้าง ผมเที่ยวบันทึกภาพส่วนที่เหลือไว้อีกมากมาย แต่นำมาโพสต์ได้ตามจำนวนที่จำกัด
วันสุดท้ายในมัณฑะเลย์แล้วนี่นา ต้องลุยให้เต็มที่!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น