ตั้งแต่เช้ายังไม่ได้ใช้เงินจ๊าดที่เหลืออยู่เลย ผมคงต้องเก็บไว้เป็น souvenir!
นั่งอยู่หน้า gate 8 ผมมองออกไปด้านนอก เห็นเครื่อง AirAsia จากดอนเมืองลงจอด มี shuttle bus วิ่งไปรับผู้โดยสารขาเข้า อีกไม่นานเจ้านกยักษ์ที่เห็นก็จะพาผมออกจากพม่า...
เมื่อเครื่องบินพร้อม gate 8 เปิดให้ผู้โดยสารเดินออกไปยัง shuttle bus ที่จอดรอรับ ตาแก่จากเมืองรถม้าเดินนำโด่งไปขี้นรถ หาที่นั่งแล้วหยิบกล้องขึ้นมาเก็บภาพไว้ ๑ บาน...
shuttle bus ไปจอดส่งผู้โดยสารให้ขึ้นเครื่อง...
ตัวคนเดียวไม่โอ้เอ้ ผมเข้าประจำที่นั่ง 11A ได้แล้ว...
๑๑.๓๐ น. เครื่องบิน AirAsia เที่ยวบิน FD271 ทะยานสู่ท้องฟ้า...
๑๔.๓๐ น. ตามเวลาท้องถิ่น ผมก็ได้กลับสู่มาตุภูมิโดยสวัสดิภาพ...
"Travellin' light ไปพม่า"ได้ปิดฉากลงอย่างสมบูรณ์! นี่คือสิ่งที่ An unusual Thai สูงวัยคนหนึ่งได้ทำมา มันเป็นการเดินทางแบบตัวเบาและประหยัดสุด ผมทำฝันให้เป็นจริงและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ประทับใจไว้อย่างคุ้มค่า จาก ๒ สัปดาห์ที่ได้นอนในมัณฑะเลย์ ๔ คืน - พะโค๊ะคุ ๒ คืน - พุกาม ๒ คืน - บนรถไฟ ๑ คืน - กะตะ ๑ คืน - สถานีรถไฟ ๑ คืน - พินอูลวิน ๒ คืน และมัณฑะเลย์อีก ๒ คืน กับอาหารพม่าแบบพื้นบ้านอีกหลายมื้อ ผมเชื่อว่าการทำเช่นนี้ได้ ส่วนหนึ่งก็ต้องอาศัยความกล้าความอดทน และทำตัวติดดิน!
ด้วยกล้องถ่ายรูปแบบคอมแพ็ค ๒ ตัว ได้ภาพกลับมาเกือบ ๒ พันบาน! เมื่อการผจญภัยสิ้นสุด สิ่งที่ผมภูมิใจมาก ๆ ก็คือการได้นำเรื่องราวมาเขียนลงบล็อกดัวยความเพียร ใช้เวลาหลายร้อยชั่วโมงนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ทั้งพิมพ์และโพสต์ภาพมากมายให้เพื่อน ๆ ได้อ่านโดยไม่หวังผลตอบแทนใด ๆ ทั้งสิ้น ถึงกระนั้นผมก็รู้สึกดีใจเมื่อเห็นคนเข้ามาโพสต์คำถาม เพราะแสดงให้เห็นว่าบล็อกนี้ยังพอจะเป็นประโยชน์ต่อนักเดินทางคนต่อไปได้บ้าง...
อย่างไรก็ตาม ผมก็ต้องขออภัยหากได้เขียนข้อความกระทบความรู้สึกของผู้ใดผู้หนึ่ง หรือนำภาพถ่ายไม่สวยหรือไม่น่าดูมาโพสต์ รวมทั้งข้อมูลซึ่งไม่ถูกต้องด้วย!
ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลที่ผมนำมาอ้างอิง รวมทั้งเพื่อน ๆ ทุกคนที่ได้ติดตามอ่าน
เจซูติน บาแด... ตาตา!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น