
หลังจากทัศนาโบราณสถานริมถนนเชียงแสน – สามเหลี่ยมทองคำซึ่งได้แก่ วัดสังฆาแก้วดอนทัน, วัดป่างัวเชียง, วัดมหาโพธิ์ และวัดมงคลแล้ว เรามาลุยกันต่อเลยนะครับ…

ก่อนเลี้ยวซ้ายตรงสามแยกข้างหน้า ขอหยุดถ่ายภาพป้ายและกำแพงที่เห็นทางด้านขวานั่นไว้ก่อน ๑ บาน…

รู้สึกเหมือนได้กลับไปขี่จักรยานเที่ยวรอบคูเมืองเชียงใหม่เมื่อ ๕๐ ปีก่อน ผมมีความสุขในทุกรอบที่วงล้อของเจ้า Coyote หมุนไป บนถนนสำหรับจักรยานซึ่งอยู่ทางด้านซ้ายมือ ถนนรอบเวียงเช้าวันนี้ว่างดีจัง ผมหยุดถ่ายภาพเป็นระยะ ๆ เข้าไปยืนอ่านป้ายบรรยายของกรมศิลปากรด้วยความรู้สึกชื่นชม (ในนครลำปาง… มองหาภาพอย่างนี้ได้ยากเพราะต่างคนต่างทำ บ้านเมืองขาดการบูรณาการที่เป็นระบบ หุหุ)
ป้ายบรรยายเรื่อง “ผนังกำแพงด้านในเมือง”….



ถึงสี่แยก… ผมเห็นมีคนขี่จักรยานผ่านกำแพงโบราณเข้ามาในเมือง

โห…เมืองอะไรช่างเงียบสงบดีจัง! เสียดายที่ท้องฟ้าไม่สดใส (ช่วงหลังมานี้…ผมไม่เคยเห็นบ้านไหนเมืองไหนของไทยที่ปราศจากหมอกควัน ได้แต่หวังว่าถ้ามีโอกาสผมจะต้องออกไปแสวงหาเพื่อนำกลับมาเล่าให้เพื่อน ๆ ฟัง)

ป้ายบรรยาย “ประวัติศาสตร์เมืองเชียงแสน”…





ป้ายบรรยายเรื่องการ “ค้ำยันแท่นอิฐรูปสี่เหลี่ยมที่หันมุมแหลมเข้าหากัน”…
ทางรถจักรยาน...





ผมปั่นไปจนใกล้ถึงโค้งถนนที่เห็นเบื้องหน้า…

จริง ๆ แล้ว… ถ้าไม่มีจักรยาน ก็เดินเที่ยวชมได้ครับ ระยะทางแค่นี้…ครบหนึ่งรอบก็ยังไม่เท่ากับที่ผมไปเดินในลาวและเวียดนามเลย!

ถึงอย่างไร… การปั่นจักรยานก็ช่วยทำให้ไปได้เร็วขึ้นครับ!


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น