จากวัดพันเลา (W1) ผมปั่นจักรยานอีกไม่ไกลก็ถึงวัดหัวหนอง (W2)
กรมศิลปากรทำป้ายตั้งไว้ อ่านหน่อยละกัน...
วัดหัวหนอง เวียงกุมกาม
เป็นชื่อที่เรียกในปัจจุบันโดยยังไม่พบชื่อในเอกสารโบราณ จากการขุดค้นทางโบราณคดี พบ วิหาร เจดีย์ช้างล้อม อุโบสถ มณฑป และ ซุ้มประตู (ซุ้มโขง) เจดีย์ช้างล้อมพบว่าที่ฐานของเจดีย์องค์นี้มี ช้าง ในท่านั่งหมอบตกแต่งอย่างสวยงาม รูปปั้นช้างหมอบนี้คล้ายกับที่วัดเจดีย์สี่ห้อง เมืองสุโขทัย ซึ่งเป็นหลักฐานของการเลื่อมใสศรัทธาพุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์ ที่เผยแผ่มาจากเมืองสุโขทัยในช่วง ๕๐๐-๖๐๐ ปีที่แล้ว ส่วนอาคารอื่นที่พบนั้นล้วนเป็นอาคารแบบล้านนาที่พบเห็นได้ในเวียงกุมกาม
ฐานข้อมูลแหล่งโบราณคดีที่สำคัญในประเทศไทยกล่าวว่า...
วัดหัวหนองเป็นโบราณสถานร้าง ไม่ปรากฏข้อมูลของโบราณสถานในเอกสารประวัติศาสตร์ฉบับใด โดยชื่อของวัดหัวหนองสันนิษฐานว่าอาจเนื่องมาจากวัดนี้ตั้งอยู่ใกล้กับหนองน้ำ กรมศิลปากรได้ดำเนินการขุดแต่งศึกษาและบูรณะโบราณสถานวัดหัวหนอง ในปี พ.ศ. 2531 – 2532 พบโบราณสถานที่มีขนาดใหญ่มากกลุ่มหนึ่งในเมืองเวียงกุมกาม ประกอบด้วยกัน 5 กลุ่ม ดังนี้...
1. เจดีย์ช้างล้อม วิหาร และเจดีย์ด้านข้างวิหาร
2. อุโบสถและมณฑป3. แนวกำแพงแก้วและซุ้มโขง แผนผังของซุ้มมีการยกเก็จถี่ ฐานซุ้มโขง4. แนวกำแพงแก้วและฐานอาคารที่แบ่งเป็นห้องสี่เหลี่ยมขนาดต่างๆ5. เจดีย์ วิหาร อุโบสถ

เก็บภาพมาฝากเพื่อน ๆ แล้วดังนี้...








รูปเยอะหน่อยนะครับ ผมไม่สามารถเขียนอะไรได้ เพราะความรู้น้อย ได้แต่กดชัตเตอร์ลูกเดียว!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น